แท็ก
ข้อมูล
1.3 ราคาน้ำมัน ที่เพิ่มขึ้นมีบทบาทสำคัญในการก่อให้เกิดเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น และราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ผลิตขยายสินค้าได้น้อยลง จึงผลิตลดลง และจ้างงานลดลง จากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่ปี คศ. 1973 พบว่าเศรษฐกิจหดตัวหลังจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นมากอย่างไรก็ตามในปี คศ. 2003 เศรษฐกิจโลกยังคงขยายตัวได้ดี แม้ว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการวิเคราะห์วัฏจักรทางเศรษฐกิจจึงควรพิจารณาทิศทางของวัฏจัรทางธุรกิจจากตัวชี้นำทางเศรษฐกิจที่สำคัญทุกตัว มากกว่าที่จะพิจาณาจากตัวชี้วัดตัวใดตัวหนึ่ง โดยให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดที่มีหลักฐานสนับสนุนมากกว่า
1.4 ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ (Leading economic indicators) องค์ประกอบของดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ "The conference board's index of leading economic indicators" เพื่อวิเคราะห์วัฏจักรทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วยตัวชี้วัดรายเดือน 10 ตัว เช่น yield curve, ราคาหุ้น ปริมาณเงินที่แท้จริง ดัชนีการคาดการณ์ผู้บริโภค จำนวนชั่วโมงการทำงาน ยอดสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมใหม่ เป็นต้น อย่างไรก็ตามดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจมีความสามารถในการคาดการณ์จุดวกกลับค่อนข้างต่ำ และส่งสัญญาณเตือนเศรษฐกิจตกต่ำในขณะที่เศรษฐกิจไม่ได้หดตัว
1.5 Economic Dashboard มีความสามารถในการคาดการณ์วัฏจักรทางธุรกิจได้แม่นยำและทันเวลามากกว่าดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ โดย Economic Dashboard ประกอบด้วย 2 รายการ ได้แก่ 1) ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจรายสัปดาห์ (Weekly leading index) ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญได้แก่ yield curve ราคาหุ้น corporate bond spread, mortgage applications, jobless claims, ปริมาณเงิน และดัชนีราคา ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ จัดทำขึ้นรายสัปดาห์ ทำให้สามารถคาดการณ์วัฏจักรทางธุรกิจได้ทันเวลามากขึ้น และ 2) การคาดการณ์เงินเฟ้อในอนาคต (future inflation gauge) ประกอบด้วยตัวชี้วัด 8 ตัวที่ชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคา ค่าจ้าง และอัตราดอกเบี้ย
2. แบบจำลองเพื่อใช้ในการประมาณการเศรษฐกิจ
2.1 โดยส่วนใหญ่แล้วแบบจำลองทางเศรษฐกิจที่ประกอบด้วยสมการหลายสมการ มักจะมีความสามารถในการคาดการณ์เศรษฐกิจถดถอยได้ต่ำ ทั้งนี้เนื่องจากแบบจำลองใช้ข้อมูลในอดีตมาคาดการณ์ในอนาคต ในขณะที่เศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้ผลิตและผู้บริโภคอย่างทันทีทันใด
2.2 การเป็นสมาชิกของ The blue ship consensus survey (การสำรวจการคาดการณ์ประมาณการทางเศรษฐกิจ เช่น GDP เงินเฟ้อ อัตราการว่างงาน โดยสถาบันต่าง ๆ 50 สถาบัน เช่น chase manhattan, global insight, สถาบันการศึกษา UCLA) เป็นวิธีการหนึ่งในการคาดการณ์วัฏจักรทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เนื่องจากได้มีการพิสูจน์แล้วว่า consensus survey มีความสามารถในการประมาณการได้ดีกว่าการประมาณการโดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
3. การติดตามข้อมูลทางเศรษฐกิจ
การติดตามข้อมูลทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดตามตารางการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในประเทศ และเศรษฐกิจต่างประเทศจะช่วยให้สามารถคาดการณ์วัฏจักรทางธุรกิจได้ดีขึ้น นอกจากนี้การติดตามการเคลื่อนไหวในตลาดหุ้น พันธบัตร และอัตราแลกเปลี่ยนต่อข่าว ต่าง ๆ จะช่วยให้เข้าใจตลาดการเงินและทิศทางเศรษฐกิจได้ดีขึ้น
4. การศึกษารูปแบบของวัฏจักรทางธุรกิจของอุตสาหกรรมต่าง ๆ หรือวัฏจักรของตลาดหุ้นเพื่อหมุนเวียนลงทุนในสาขาธุรกิจที่แตกต่างกัน (Sector Rotation) ในแต่ละช่วงเวลา แม้ว่าราคาของหุ้นส่วนใหญ่จะเพิ่มสูงขึ้นในภาวะตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายมาก (bull market) แต่ในช่วงระยะเวลาต่าง ๆ ของวัฏจักรตลาดหุ้น หุ้นของสาขาการผลิตบางสาขามีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าในบางสาขาการผลิต ตัวอย่างเช่น หุ้นของบริษัทประกันภัยจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่รงกันข้ามกับราคาตลาดหุ้น ดังนั้นการตระหนักถึงรูปแบบของ sector ration จะช่วยในการกำหนดกลยุทธ์ขององค์กรได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
--สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ--
-พห-
1.4 ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ (Leading economic indicators) องค์ประกอบของดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ "The conference board's index of leading economic indicators" เพื่อวิเคราะห์วัฏจักรทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วยตัวชี้วัดรายเดือน 10 ตัว เช่น yield curve, ราคาหุ้น ปริมาณเงินที่แท้จริง ดัชนีการคาดการณ์ผู้บริโภค จำนวนชั่วโมงการทำงาน ยอดสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมใหม่ เป็นต้น อย่างไรก็ตามดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจมีความสามารถในการคาดการณ์จุดวกกลับค่อนข้างต่ำ และส่งสัญญาณเตือนเศรษฐกิจตกต่ำในขณะที่เศรษฐกิจไม่ได้หดตัว
1.5 Economic Dashboard มีความสามารถในการคาดการณ์วัฏจักรทางธุรกิจได้แม่นยำและทันเวลามากกว่าดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ โดย Economic Dashboard ประกอบด้วย 2 รายการ ได้แก่ 1) ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจรายสัปดาห์ (Weekly leading index) ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญได้แก่ yield curve ราคาหุ้น corporate bond spread, mortgage applications, jobless claims, ปริมาณเงิน และดัชนีราคา ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ จัดทำขึ้นรายสัปดาห์ ทำให้สามารถคาดการณ์วัฏจักรทางธุรกิจได้ทันเวลามากขึ้น และ 2) การคาดการณ์เงินเฟ้อในอนาคต (future inflation gauge) ประกอบด้วยตัวชี้วัด 8 ตัวที่ชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคา ค่าจ้าง และอัตราดอกเบี้ย
2. แบบจำลองเพื่อใช้ในการประมาณการเศรษฐกิจ
2.1 โดยส่วนใหญ่แล้วแบบจำลองทางเศรษฐกิจที่ประกอบด้วยสมการหลายสมการ มักจะมีความสามารถในการคาดการณ์เศรษฐกิจถดถอยได้ต่ำ ทั้งนี้เนื่องจากแบบจำลองใช้ข้อมูลในอดีตมาคาดการณ์ในอนาคต ในขณะที่เศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้ผลิตและผู้บริโภคอย่างทันทีทันใด
2.2 การเป็นสมาชิกของ The blue ship consensus survey (การสำรวจการคาดการณ์ประมาณการทางเศรษฐกิจ เช่น GDP เงินเฟ้อ อัตราการว่างงาน โดยสถาบันต่าง ๆ 50 สถาบัน เช่น chase manhattan, global insight, สถาบันการศึกษา UCLA) เป็นวิธีการหนึ่งในการคาดการณ์วัฏจักรทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เนื่องจากได้มีการพิสูจน์แล้วว่า consensus survey มีความสามารถในการประมาณการได้ดีกว่าการประมาณการโดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
3. การติดตามข้อมูลทางเศรษฐกิจ
การติดตามข้อมูลทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดตามตารางการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในประเทศ และเศรษฐกิจต่างประเทศจะช่วยให้สามารถคาดการณ์วัฏจักรทางธุรกิจได้ดีขึ้น นอกจากนี้การติดตามการเคลื่อนไหวในตลาดหุ้น พันธบัตร และอัตราแลกเปลี่ยนต่อข่าว ต่าง ๆ จะช่วยให้เข้าใจตลาดการเงินและทิศทางเศรษฐกิจได้ดีขึ้น
4. การศึกษารูปแบบของวัฏจักรทางธุรกิจของอุตสาหกรรมต่าง ๆ หรือวัฏจักรของตลาดหุ้นเพื่อหมุนเวียนลงทุนในสาขาธุรกิจที่แตกต่างกัน (Sector Rotation) ในแต่ละช่วงเวลา แม้ว่าราคาของหุ้นส่วนใหญ่จะเพิ่มสูงขึ้นในภาวะตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายมาก (bull market) แต่ในช่วงระยะเวลาต่าง ๆ ของวัฏจักรตลาดหุ้น หุ้นของสาขาการผลิตบางสาขามีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าในบางสาขาการผลิต ตัวอย่างเช่น หุ้นของบริษัทประกันภัยจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่รงกันข้ามกับราคาตลาดหุ้น ดังนั้นการตระหนักถึงรูปแบบของ sector ration จะช่วยในการกำหนดกลยุทธ์ขององค์กรได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
--สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ--
-พห-