ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554

ข่าวทั่วไป Wednesday May 18, 2011 10:11 —สำนักงานสถิติแห่งชาติ

ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรประจำเดือนมีนาคม 2554 พบว่า จากจำนวนผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไปหรือผู้อยู่ในวัยทำงานทั้งสิ้น 53.85 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อมทำงาน 38.43 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วย ผู้มีงานทำ 37.81 ล้านคน ผู้ว่างงาน 2.8 แสนคน และผู้รอฤดูกาล 3.4 แสนคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงานมี 15.42 ล้านคน

จำนวนผู้มีงานทำ 37.81 ล้านคนนี้ โดยประกอบด้วยเป็นผู้มีงานทำในภาคเกษตรกรรม 13.07 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 24.74 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม 2553 พบว่า ในภาคเกษตรกรรมมีจำนวนผู้ทำงานเพิ่มขึ้น 1 หมื่นคน (จาก 13.06 ล้านคน เป็น 13.07 ล้านคน) ส่วนนอกภาคเกษตรกรรมมีผู้ทำงานเพิ่มขึ้น 2 แสนคน (จาก 24.54 ล้านคน เป็น 24.74 ล้านคน) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นใน สาขาการก่อสร้าง 2.2 แสนคน สาขากิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ (เช่น กิจกรรมบริการเพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย การบริการซักรีดและซักแห้ง การซ่อมเครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นต้น) 1.9 แสนคน สาขาการผลิต 1.5 แสนคน และสาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศ และการประกันสังคมภาคบังคับ 1.2 แสนคน ส่วนที่ลดลงเป็นสาขาการขายส่ง การขายปลีกการซ่อมยานยนต์ฯ 3.4 แสนคน สาขาการขนส่งและสถานที่ เก็บสินค้า 2.3 แสนคน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 6 หมื่นคน ที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ

หากพิจารณาถึงลักษณะของการทำงานไม่เต็มเวลาจากชั่วโมงการทำงาน พบว่า ในจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด 37.81 ล้านคน เป็นผู้ที่ทำงานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 5.11 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 13.5 ของผู้มีงานทำ ซึ่งกลุ่มผู้ทำ งานเหล่านี้ คือผู้ที่ทำงานไม่เต็มเวลา หากนำมาเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2553 ผู้ทำงานไม่เต็มเวลามีจำนวนลดลง 1.37 ล้านคน (จาก 6.48 ล้านคนเป็น 5.11 ล้านคน) หรือลดลงร้อยละ 3.7 (จากร้อยละ 17.2 เป็นร้อยละ 13.5)

สำหรับจำนวนของผู้ว่างงานในเดือนมีนาคม 2554 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.76 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.7 และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2553 มีจำนวนผู้ว่างงานลดลง 9.2 หมื่นคน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนที่ผ่านมา (กุมภาพันธ์ 2554) มีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 8 พันคน (จาก 2.68 แสนคน เป็น 2.76 แสนคน)

เมื่อพิจารณาผู้ว่างงานจากประสบการณ์การทำงานพบว่า ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนมีจำนวน 1.03 แสนคน ส่วนผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 1.73 แสนคน ซึ่งลดลง 8.2 หมื่นคน จากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2553 (จาก 2.55 แสนคนเป็น 1.73 แสนคน) โดยเป็นผู้ว่างงานมาจากภาคการบริการและการค้า 7.5 หมื่นคน การผลิต 5.7 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 4.1 หมื่นคน

หากพิจารณาการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุระหว่าง 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 2.9 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.4 เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2553 กลุ่มวัยเยาวชนมีอัตราการว่างงานลดลงร้อยละ 0.6 (จากร้อยละ 3.5 เป็นร้อยละ 2.9) แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนที่ผ่านมา (กุมภาพันธ์ 2554) กลุ่มวัยเยาวชนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 (จากร้อยละ 2.8 เป็นร้อยละ 2.9)

สำหรับระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานในเดือนมีนาคม 2554 พบว่า ผู้ที่จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษามีจำนวนมากที่สุด 9.9 หมื่นคน (ร้อยละ 1.5) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 5.8 หมื่นคน (ร้อยละ 0.9) ระดับประถมศึกษา 5.2 หมื่นคน (ร้อยละ 0.6) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 4.6 หมื่นคน (ร้อยละ 0.9) และผู้ที่ไม่มีการศึกษา และต่ำกว่าประถมศึกษา 2.1 หมื่นคน (ร้อยละ 0.2) เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2553 พบว่าจำนวนผู้ว่างงานลดลงในทุกระดับ โดยระดับมัธยมศึกษาตอนต้นลดลงมากที่สุด 2.3 หมื่นคน รองลงมาคือ ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย 2.2 หมื่นคน ระดับอุดมศึกษา 1.7 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา และระดับประถมศึกษาลดลงเท่ากันคือ 1.5 หมื่นคน

หากพิจารณาอัตราการว่างงาน เป็นรายภาค พบว่ากรุงเทพมหานครมีอัตราการว่างงานสูงที่สุดคือร้อยละ 1.2 รองลงมาเป็นภาคใต้ร้อยละ 1.0 ภาคเหนือร้อยละ 0.7 ภาคกลางร้อยละ 0.6 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 0.5 ถ้าเปรียบเทียบอัตราการว่างงานในช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2553 พบว่า ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอัตราการว่างงานลดลงมากที่สุดร้อยละ 0.5 ภาคใต้ร้อยละ 0.3 และภาคเหนือมีอัตราการว่างงานไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ส่วนกรุงเทพมหานครมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5

สรุปผลที่สำคัญ

1. โครงสร้างกำลังแรงงาน

ผลการสำรวจในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 พบว่า มีจำนวนประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป 53.85 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานประมาณ 38.43 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 71.4 ของประชากร (ชายร้อยละ 79.9 และหญิงร้อยละ 63.3) เป็นผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงาน 15.42 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 28.6 (ชายร้อยละ 20.1 และหญิงร้อยละ 36.7) สำหรับกลุ่มผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน จำแนกออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

1. ผู้มีงานทำ จำนวน 37.81 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 98.4 ของผู้อยู่ในกำลังแรงงาน (ชายร้อยละ 98.4 หญิงร้อยละ 98.3)

2. ผู้ว่างงาน หมายถึง ผู้ไม่มีงานทำและพร้อมที่จะทำงาน มีจำนวน 2.76 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 0.7 (ชายร้อยละ 0.7 และหญิงร้อยละ 0.7)

3. ผู้ที่รอฤดูกาล หมายถึง ผู้ที่ไม่ได้ทำงานและไม่พร้อมที่จะทำงาน เนื่องจากจะรอทำงานในฤดูกาลต่อไปมีจำนวน 3.47 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 0.9 (ชายร้อยละ 0.9 และหญิงร้อยละ 0.9)

2. ภาวะการมีงานทำของประชากร

เมื่อพิจารณาถึงลักษณะการทำงานของประชากรเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 พบว่า จากจำนวนผู้มีงานทำทั้งสิ้น 37.81 ล้านคน (ชาย 20.59 ล้านคน และหญิง 17.22 ล้านคน) เป็นผู้ทำงานภาคเกษตรกรรม 13.07 ล้านคน หรือร้อยละ 34.6 ของผู้มีงานทำ (ชาย 7.39 ล้านคน และหญิง 5.68 ล้านคน) และทำงานนอกภาคเกษตรกรรม 24.74 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 65.4 ของผู้มีงานทำ (ชาย 13.20 ล้านคน และหญิง 11.54 ล้านคน)

เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม 2553 พบว่า ในภาคเกษตรกรรมมีจำนวนผู้ทำงานเพิ่มขึ้น 1 หมื่นคน (เพิ่มขึ้นจาก 13.06 ล้านคน เป็น 13.07 ล้านคน) ส่วนนอกภาคเกษตรกรรมมีผู้ทำงานเพิ่มขึ้น 2 แสนคน (เพิ่มขึ้นจาก 24.54 ล้านคน เป็น 24.74 ล้านคน) ในจำนวนนี้เป็นการเพิ่มขึ้นในสาขาการก่อสร้าง มากที่สุด 2.2 แสนคน รองลงมาเป็นสาขากิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย การบริการซักรีดและซักแห้ง การซ่อมเครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นต้น 1.9 แสนคน สาขาการผลิต 1.5 แสนคน สาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศ และการประกันสังคมภาคบังคับ 1.2 แสนคน สาขาการศึกษา 2 หมื่นคน และสาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ 1 หมื่นคน ส่วนสาขาที่ลดลงเป็น สาขาการขายส่ง การขายปลีก การซ่อมยานยนต์ฯ ลดลง 3.4 แสนคน สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า ลดลง 2.3 แสนคน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร ลดลง 6 หมื่นคน และสาขากิจกรรมด้านสุขภาพและ งานสังคมสงเคราะห์ ลดลง 4 หมื่นคน สำหรับสาขากิจกรรมทางการเงิน และการประกันภัย จำนวนผู้มีงานทำไม่เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่น ๆ

เมื่อพิจารณาถึงชั่วโมงทำงานของผู้มีงานทำต่อสัปดาห์ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 พบว่า ส่วนใหญ่ทำงานตั้งแต่ 35 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ทำงานเต็มที่ในเรื่องชั่วโมงทำงาน มีจำนวน 32.70 ล้านคน หรือร้อยละ 86.5 ของผู้มีงานทำทั้งสิ้น (ชายร้อยละ 87.0 และหญิงร้อยละ 85.9) และผู้ที่ทำงาน 1 - 34 ชั่วโมงมีจำนวน 4.58 ล้านคน หรือร้อยละ 12.1 (ชายร้อยละ 11.5 และหญิงร้อยละ 12.8) สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำงานในสัปดาห์สำรวจ (ระหว่าง 7 วันก่อนวันสัมภาษณ์) แต่เป็นผู้มีงานประจำซึ่งถือว่าในสัปดาห์สำรวจไม่มีชั่วโมงทำงาน (0 ชั่วโมง) มีจำนวน 5.3 แสนคน หรือร้อยละ 1.4 (ชายร้อยละ 1.5 และหญิงร้อยละ 1.3) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าจำนวนผู้ที่ทำงานตั้งแต่ 35 ชั่วโมงขึ้นไปเพิ่มขึ้น 1.58 ล้านคน ส่วนผู้ที่ทำงาน 1 - 34 ชั่วโมงลดลง 1.2 ล้านคน และผู้ที่ไม่ได้ทำงานในสัปดาห์การสำรวจ (0 ชั่วโมง) ลดลง 1.7 แสนคน

3. ภาวะการว่างงานของประชากร

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 มีผู้ว่างงาน 2.76 แสนคน (ชาย 1.47 แสนคน และหญิง 1.29 แสนคน) คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 0.7 (ชายร้อยละ 0.7 และหญิงร้อยละ 0.7) และถ้าพิจารณาเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า จำนวนผู้ว่างงานลดลง 9.2 หมื่นคน เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า กรุงเทพมหานครมีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุด 1.9 หมื่นคน ภาคเหนือเพิ่มขึ้น 4 พันคน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลงมากที่สุด 6.4 หมื่นคน ภาคกลางลดลง 3.8 หมื่นคน และภาคใต้ลดลง 1.3 หมื่นคน

ถ้าพิจารณาอัตราการว่างงานในเดือนมีนาคม พ.ศ.2554 เป็นรายภาค พบว่า กรุงเทพมหานครมีอัตราการว่างงานสูงสุดร้อยละ 1.2 รองลงมาคือ ภาคใต้ร้อยละ 1.0 ภาคเหนือร้อยละ 0.7 ภาคกลางร้อยละ 0.6 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราการว่างงานน้อยที่สุดคือร้อยละ 0.5

เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานของแต่ละภาคกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา พบว่าอัตราการว่างงานทั่วประเทศลดลงร้อยละ 0.3 เมื่อพิจารณาเป็นรายภาคพบว่า กรุงเทพมหานครมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 0.5 ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราการว่างงานลดลงเท่ากันคือร้อยละ 0.5 และภาคใต้ลดลงร้อยละ 0.3 สำหรับภาคเหนืออัตราการว่างงานไม่เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา

เมื่อพิจารณาถึงลักษณะผู้ว่างงานตามประสบการณ์การทำงาน พบว่า เป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 1.03 แสนคน หรือคิดเป็นร้อยละ 37.3 ของผู้ว่างงานทั้งสิ้น ส่วนผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนมี 1.73 แสนคน หรือคิดเป็นร้อยละ 62.7 โดยเป็นผู้ว่างงานมาจากนอกภาคเกษตรกรรม 1.32 แสนคน ซึ่งประกอบด้วยภาคการบริการและการค้า 7.5 หมื่นคน และภาคการผลิต 5.7 หมื่นคน สำหรับผู้ว่างงานในภาคเกษตรกรรมมี 4.1 หมื่นคน

เมื่อพิจารณาระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานจำนวน 2.76 แสนคน พบว่า ระดับการศึกษาที่มีผู้ว่างงานมากที่สุดคือ ระดับอุดมศึกษา 9.9 หมื่นคน รองลงมาคือ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 5.8 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 5.2 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 4.6 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 2.1 หมื่นคน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา พบว่า ผู้ว่างงานลดลงทุกระดับการศึกษา โดยระดับมัธยมศึกษาตอนต้นลดลงมากที่สุด 2.3 หมื่นคน รองลงมาคือ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายลดลง 2.2 หมื่นคน ระดับอุดมศึกษาลดลง 1.7 หมื่นคน ผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา และระดับประถมศึกษาลดลงเท่ากันคือ 1.5 หมื่นคน

จากการพิจารณาอัตราการว่างงานตามระดับการศึกษาที่สำ เร็จ พบว่า ผู้ที่จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษามีอัตราการว่างงานสูงที่สุดคือร้อยละ 1.5 รองลงมาเป็นผู้ที่จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีอัตราการว่างงานเท่ากันร้อยละ 0.9 ระดับประถมศึกษาร้อยละ 0.6 และผู้ว่างงานที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษาร้อยละ 0.2 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา พบว่า อัตราการว่างงานลดลงทุกระดับการศึกษา โดยผู้ว่างงานที่จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีอัตราการว่างงานลดลงมากที่สุดเท่ากันคือร้อยละ 0.4 รองลงมาคือ ระดับอุดมศึกษาลดลงร้อยละ 0.3 ระดับประถมศึกษาลดลงร้อยละ 0.2 และผู้ว่างงานที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษาลดลงน้อยที่สุดคือร้อยละ 0.1

ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ