สำหรับจำนวนผู้มีงาน 37.93 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 11.36 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 26.57 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 พบว่า จำนวนผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมลดลง 4.8 แสนคน แต่นอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 6.7 แสนคน โดยสาขาการก่อสร้าง และสาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินคาเพิ่มขึ้นเท่ากัน 1.5 แสนคน รองลงมาเป็นสาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศ และการประกันสังคมภาคบังคับ 1.0 แสนคน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 7.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตวเลี้ยง การบริการซักรีดและซักแห้ง เป็นต้น 4.0 หมื่นคน สาขาการศึกษาและสาขากิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์เพิ่มขึ้นเท่ากันคือ 3.0 หมื่นคน และสาขากิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย 1.0 หมื่นคน ส่วนสาขาที่ลดลงคือสาขาการขายส่งการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และรถจักรยานยนต์ 7.0 หมื่นคน และสาขาการผลิต 3.0 หมื่นคน สำหรับสาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ
หากพิจารณาถึงจำนวนผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและพร้อมที่จะทำงานได้อีก หรือเรียกคนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (Underemployment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีผู้ที่ทำงานต่ำกว่าระดับ 1.70 แสนคน หรือร้อยละ 0.4 ของจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด ซึ่งกลุ่มนี้แม้ว่าจะมีงานทำแล้วก็ตาม แต่ยังมีเวลาว่างที่มากพอและพร้อมที่จะทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ จำแนกตามเพศ พบว่า โดยภาพรวมเพศชายมากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงาน ต่ำกว่าระดับ 1.0 แสนคน (ร้อยละ 0.5) และเพศหญิง 7.0 หมื่นคน (ร้อยละ 0.4) ตามลำดับ
สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 มีทั้งสิ้น 3.16 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.8 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 1.5 หมื่นคน (จาก 3.31 แสนคน เป็น 3.16 แสนคน) และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม พ.ศ. 2558 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 8.8 หมื่นคน (จาก 4.04 แสนคน เป็น 3.16 แสนคน)
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงาน ตามเพศในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 พบว่า เพศหญิงมีอัตราการว่างงานสูงกว่าเพศชายคือร้อยละ 1.0 และ ร้อยละ 0.7 ตามลำดับ เมื่อพิจารณาถึงจำนวนผู้ว่างงาน มีผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 1.52 แสนคนคน และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 1.64 แสนคน ซึ่งลดลง 3.2 หมื่นคน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (จาก 1.96 แสนคนเป็น 1.64 แสนคน) โดยเป็นผู้ว่างงานจาก ภาคการบริการและการค่า 8.6 หมื่นคน ภาคการผลิต 5.3 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 2.5 หมื่นคน ตามลำดับ
สำหรับการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุระหว่าง 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 3.6 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.5 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 กลุ่มวัยเยาวชนมีอัตราการว่างงานลดลงจากร้อยละ 3.8 เป็นร้อยละ 3.6 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม พ.ศ. 2558 กลุ่มวัยเยาวชนมีอัตราการว่างงานลดลงจากร้อยละ 4.5 เป็นร้อยละ 3.6
สำหรับระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานใน เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา 1.08 แสนคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 1.3) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 7.2 หมื่นคน (ร้อยละ 1.2) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 6.2 หมื่นคน (ร้อยละ 1.0) ระดับประถมศึกษา 4.2 หมื่นคน (ร้อยละ 0.5) และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 3.2 หมื่นคน (ร้อยละ 0.3) และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 พบว่า จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1.5 หมื่นคน และระดับอุดมศึกษา 4.0 พันคน ส่วนที่ลดลงคือระดับประถมศึกษา 2.1 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 1.1 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 2.0 พันคน
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ว่างงาน เป็นรายภาค พบว่า ภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานสูงสุด 7.7 หมื่นคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 0.7) รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6.9 หมื่นคน (ร้อยละ 0.7) ภาคใต้ 6.4 หมื่นคน (ร้อยละ 1.2) กรุงเทพมหานคร 5.4 หมื่นคน (ร้อยละ 1.0) และภาคเหนือ 5.2 หมื่นคน (ร้อยละ 0.8) และ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ว่างงานทั่วประเทศลดลง 1.5 หมื่นคน (จาก 3.31 แสนคน เป็น 3.16 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า กรุงเทพมหานคร มีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุด รองลงมาเป็นภาคใต้ ในส่วนที่ลดลงคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด รองลงมาเป็นภาคกลางและภาคเหนือ ตามลำดับ