สำหรับจำนวนผู้มีงาน 37.62 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 11.63 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 25.99 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 พบว่า จำนวนผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมลดลง 4.8 แสนคน แต่นอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 2.0 แสนคน โดยสาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร และสาขาการศึกษา 1.0 แสนคน สาขากิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยง การบริการซักรีดและซักแห้ง เป็นต้น 7.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย 5.0 หมื่นคน และสาขา การผลิต 1.0 หมื่นคน ส่วนสาขาที่ลดลงมากที่สุดคือสาขาการก่อสร้าง 1.3 แสนคน รองลงมาเป็นสาขาการขนส่ง และสถานที่เก็บสินค้า 8.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ และสาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศและการประกันสังคมภาคบังคับลดลงเท่ากัน 3.0 หมื่นคน และสาขาการขายส่งการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ 1.0 หมื่นคน สำหรับสาขากิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ
หากพิจารณาถึงจำนวนผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและพร้อมที่จะทำงานได้อีก หรือเรียกคนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (Underemployment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีผู้ที่ทำงานต่ำกว่าระดับ 2.39 แสนคน หรือร้อยละ 0.6 ของจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด ซึ่งกลุ่มนี้แม้ว่าจะมีงานทำแล้วก็ตาม แต่ยังมีเวลาว่างที่มากพอและพร้อมที่จะทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ จำแนกตามเพศ พบว่า โดยภาพรวมเพศชายมากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนมีนาคม 2558 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงาน ต่ำกว่าระดับ 1.47 แสนคน (ร้อยละ 0.7) และเพศหญิง 9.3 หมื่นคน (ร้อยละ 0.5) ตามลำดับ
สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558 มีทั้งสิ้น 3.78 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.0 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 3.7 หมื่นคน (จาก 3.41 แสนคน เป็น 3.78 แสนคน) และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 6.2 หมื่นคน (จาก 3.16 แสนคน เป็น 3.78 แสนคน) เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงาน ตามเพศใน เดือนมีนาคม พ.ศ. 2558 พบว่า เพศชายมีอัตราการว่างงานสูงกว่าเพศหญิงคือร้อยละ 1.2 และ ร้อยละ 0.9 ตามลำดับ เมื่อพิจารณาถึงจำนวนผู้ว่างงาน มีผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 1.83 แสนคนคน และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 1.95 แสนคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.5 หมื่นคน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (จาก 1.80 แสนคนเป็น 1.95 แสนคน) โดยเป็น ผู้ว่างงานจาก ภาคการผลิต 9.6 หมื่นคน ภาคการบริการและการค้า 8.1 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 1.8 หมื่นคน ตามลำดับ
สำหรับการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุระหว่าง 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 4.9 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.5 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 กลุ่มวัยเยาวชนอัตรา การว่างงานไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปีที่แล้ว แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 กลุ่มวัยเยาวชนมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.6 เป็นร้อยละ 4.9
สำหรับระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานใน เดือนมีนาคม พ.ศ. 2558 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา 1.22 แสนคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 1.6) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 9.8 หมื่นคน (ร้อยละ 1.6) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 7.8 หมื่นคน (ร้อยละ 1.3) ระดับประถมศึกษา 6.0 หมื่นคน (ร้อยละ 0.7) และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 2.0 หมื่นคน (ร้อยละ 0.2) และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 พบว่า จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นในผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 1.0 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับอุดมศึกษาเท่ากัน 8.0 พันคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 7.0 พันคน และระดับประถมศึกษา 4.0 พันคน
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ว่างงาน เป็นรายภาค พบว่า ภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานสูงสุด 1.44 แสนคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 1.2) รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7.7 หมื่นคน (ร้อยละ 0.8) กรุงเทพมหานคร 6.0 หมื่นคน (ร้อยละ 1.1) ภาคเหนือ 4.9 หมื่นคน (ร้อยละ 0.8) และภาคใต้ 4.8 หมื่นคน (ร้อยละ 0.9) เมื่อเปรียบเทียบกับ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ว่างงาน ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 3.7 หมื่นคน (จาก 3.41 แสนคน เป็น 3.78 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุด รองลงมาเป็นภาคเหนือ และกรุงเทพหานคร ในส่วนที่ลดลงคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ตามลำดับ