สำหรับจำนวนผู้มีงาน 37.53 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 10.61 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 26.92 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน พ.ศ. 2557 พบว่า จำนวนผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมลดลง 4.3 แสนคน แต่นอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 6.3 แสนคน โดยเพิ่มขึ้นในสาขาการผลิต 4.0 แสนคน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 1.0 แสนคน สาขาการขนส่ง และสถานที่เก็บสินค้า 9.0 หมื่นคน สาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศและการประกันสังคมภาคบังคับ 8.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ 7.0 หมื่นคน และสาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ 4.0 หมื่นคน ส่วนสาขาที่ลดลงมากที่สุดคือสาขาการศึกษา 1.2 แสนคน รองลงมาเป็นสาขากิจกรรมทางการเงินและ การประกันภัย 8.0 หมื่นคน สาขาการก่อสร้าง 6.0 หมื่นคน สาขาการขายส่งการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ 3.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยง การบริการซักรีดและซักแห้ง เป็นต้น 1.0 หมื่นคน และที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ
หากพิจารณาถึงจำนวนผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและพร้อมที่จะทำงานได้อีก หรือเรียกคนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (Underemployment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีผู้ที่ทำงานต่ำกว่าระดับ 1.89 แสนคน หรือร้อยละ 0.5 ของจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด ซึ่งกลุ่มนี้แม้ว่าจะมีงานทำแล้วก็ตาม แต่ยังมีเวลาว่างที่มากพอและพร้อมที่จะทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ จำแนกตามเพศ พบว่า โดยภาพรวมเพศชายมากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนเมษายน 2558 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงาน ต่ำกว่าระดับ 1.20 แสนคน (ร้อยละ 0.6) และเพศหญิง 6.9 หมื่นคน (ร้อยละ 0.4) ตามลำดับ
สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในเดือนเมษายน พ.ศ. 2558 มีทั้งสิ้น 3.24 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.9 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 2.0 หมื่นคน (จาก 3.44 แสนคน เป็น 3.24 แสนคน) และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 5.4 หมื่นคน (จาก 3.78 แสนคน เป็น 3.24 แสนคน) เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงาน ตามเพศใน เดือนเมษายน พ.ศ. 2558 พบว่า เพศชายมีอัตราการว่างงานสูงกว่าเพศหญิงคือร้อยละ 0.9 และ ร้อยละ 0.8 ตามลำดับ เมื่อพิจารณา5งจำนวนผู้ว่างงาน มีผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 1.51 แสนคน และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 1.73 แสนคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.0 พันคน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (จาก 1.72 แสนคนเป็น 1.73 แสนคน) โดยเป็น ผู้ว่างงานจากภาคการบริการและการค้า 8.2 หมื่นคน ภาคการผลิต 7.2 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 1.9 หมื่นคน ตามลำดับ
สำหรับการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุระหว่าง 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 4.2 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 กลุ่มวัยเยาวชนอัตรา การว่างงานลดลงจากร้อยละ 4.4 เป็นร้อยละ 4.2 และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558 กลุ่มวัยเยาวชนมีอัตราการว่างงานลดลงจากร้อยละ 4.9 เป็นร้อยละ 4.2
สำหรับระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานใน เดือนเมษายน พ.ศ. 2558 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา 1.39 แสนคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 1.7) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 7.1 หมื่นคน (ร้อยละ 1.2) ระดับประถมศึกษา 5.4 หมื่นคน (ร้อยละ 0.6) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 4.9 หมื่นคน (ร้อยละ 0.8) และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 1.1 หมื่นคน (ร้อยละ 0.1) และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 พบว่า จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นในระดับประถมศึกษา 1.4 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 1.2 หมื่นคน ส่วนที่ลดลงคือระดับมัธยมศึกษาตอนปลายร้อยละ 2.3 หมื่นคน ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 1.2 หมื่นคน และระดับอุดมศึกษา 1.1 หมื่นคน
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ว่างงาน เป็นรายภาค พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนผู้ว่างงานสูงสุด 9.9 หมื่นคน อัตราการว่างงาน(ร้อยละ 1.0) รองลงมาเป็นภาคกลาง 7.4 หมื่นคน (ร้อยละ 0.6) ภาคใต้ 5.6 หมื่นคน (ร้อยละ 1.1) ภาคเหนือ 5.1 หมื่นคน (ร้อยละ 0.8) และกรุงเทพมหานคร 4.4 หมื่นคน (ร้อยละ0.8) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน พ.ศ. 2557 จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ว่างงาน ทั่วประเทศลดลง 2.0 หมื่นคน (จาก 3.44 แสนคน เป็น 3.24 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานลดลงมากที่สุด รองลงมาเป็นกรุงเทพมหานคร และภาคใต้ ในส่วนที่เพิ่มขึ้นคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ตามลำดับ