สำหรับจำนวนผู้มีงาน 38.10 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 12.13 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 25.97 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2557 พบว่า จำนวนผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมลดลง 1.08 ล้านคน ในขณะที่นอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 6.9 แสนคน โดยเพิ่มขึ้นในสาขาการก่อสร้าง 1.7 แสนคน สาขาการผลิต 1.0 แสนคน สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า และสาขาการศึกษาเพิ่มขึ้นเท่ากันคือ 9.0 หมื่นคน สาขาการขายส่งการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และรถจักรยานยนต์ 8.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ 6.0 หมื่นคน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร และสาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศและการประกันสังคมภาคบังคับเพิ่มขึ้นเท่ากันคือ 3.0 หมื่นคน และสาขากิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย 1.0 หมื่นคน ส่วนสาขาที่ลดลงมากที่สุดคือสาขากิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ 3.0 หมื่นคน และสาขากิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยง การบริการซักรีดและซักแห้ง เป็นต้น 2.0 หมื่นคน และที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ
หากพิจารณาถึงจำนวนผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและพร้อมที่จะทำงานได้อีก หรือเรียกคนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (Underemployment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีผู้ที่ทำงานต่ำกว่าระดับ 3.05 แสนคน หรือร้อยละ 0.8 ของจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด ซึ่งคนกลุ่มนี้แม้ว่าจะมีงานทำแล้วก็ตาม แต่ยังมีเวลาว่างที่มากพอและพร้อมที่จะทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ จำแนกตามเพศ พบว่า โดยปกติแล้วเพศชายมากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนกรกฎาคม 2558 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงาน ต่ำกว่าระดับ 1.87 แสนคน (ร้อยละ 0.9) และเพศหญิง 1.18 หมื่นคน (ร้อยละ 0.7) ตามลำดับ
สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 มีทั้งสิ้น 3.85 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.0 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 6 พันคน (จาก 3.79 แสนคน เป็น 3.85 แสนคน) และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 6.3 หมื่นคน (จาก 3.22 แสนคน เป็น 3.85 แสนคน)
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อัตราการว่างงานไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงาน ตามเพศใน เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 พบว่า เพศหญิงมีอัตราการว่างงานสูงกว่าเพศชายคือร้อยละ 0.9 และร้อยละ 0.8 ตามลำดับ
เมื่อพิจารณาถึงจำนวนผู้ว่างงาน พบว่า ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 1.78 แสนคน และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 2.07 แสนคน ซึ่งลดลง 3 พันคน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (จาก 2.10 แสนคนเป็น 2.07 แสนคน) โดยเป็น ผู้ว่างงานจากภาคการบริการและการค้า 9.9 หมื่นคน ภาคการผลิต 8.8 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 2.0 หมื่นคน ตามลำดับ
สำหรับการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุระหว่าง 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 4.5 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.6 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 กลุ่มวัยเยาวชนอัตราการว่างงานลดลงจากร้อยละ 4.8 เป็นร้อยละ 4.5 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 กลุ่มวัยเยาวชน มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.4 เป็นร้อยละ 4.5 สำหรับในกลุ่มวัยผู้ใหญ่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.5 เป็นร้อยละ 0.6 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานใน เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา 1.52 แสนคน (อัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.8) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 8.7 หมื่นคน (ร้อยละ 1.4) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 7.8 หมื่นคน (ร้อยละ 1.3) ระดับประถมศึกษา 4.6 หมื่นคน (ร้อยละ 0.6) และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 2.2 หมื่นคน (ร้อยละ 0.2) และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 พบว่า จำนวนผู้ว่างงานในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นลดลงมากที่สุด 1.6 หมื่นคน รองลงมาเป็นระดับประถมศึกษา 1.1 หมื่นคน ส่วนที่เพิ่มขึ้นคือระดับอุดมศึกษา 1.5 หมื่นคน ผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 1.0 หมื่นคน และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 8 พันคน
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ว่างงาน เป็นรายภาค พบว่า ภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานสูงสุด 1.19 แสนคน อัตราการว่างงาน (ร้อยละ 1.0) รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9.7 หมื่นคน (ร้อยละ 1.0) ภาคใต้ 6.2 หมื่นคน (ร้อยละ 1.2) ภาคเหนือ 5.7 หมื่นคน (ร้อยละ 0.9) และกรุงเทพมหานคร 5.0 หมื่นคน (ร้อยละ 0.9) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2557 จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ว่างงาน ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 6 พันคน (จาก 3.79 แสนคน เป็น 3.85 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุด 1.1 หมื่นคน รองลงมาเป็นภาคเหนือ 8 พันคน และภาคกลาง 6 พันคน ส่วนที่ลดลงคือภาคใต้ 1.0 หมื่นคน และกรุงเทพมหานคร 9 พันคน ตามลำดับ