สำหรับจำนวนผู้มีงาน 38.23 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 12.81 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 25.42 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2557 พบว่า จำนวนผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมลดลง 7.9 แสนคน แต่นอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 6.4 แสนคน โดยเพิ่มขึ้นในสาขาการขายส่งการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ 2.5 แสนคน รองลงมาเป็นสาขาการผลิต 2.3 แสนคน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 1.3 แสนคน สาขาการก่อสร้าง 1.0 แสนคน สาขาการศึกษาและสาขากิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยง การบริการซักรีดและซักแห้ง เป็นต้น เพิ่มขึ้นเท่ากัน 2.0 หมื่นคน และสาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ 1.0 หมื่นคน ส่วนสาขาที่ลดลงมากที่สุดคือสาขากิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ 8.0 หมื่นคน รองลงมาเป็นสาขาการขนส่ง และสถานที่เก็บสินค้า 4.0 หมื่นคน และสาขากิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย 1.0 หมื่นคน ส่วนที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือสาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศและการประกันสังคมภาคบังคับ และที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ
หากพิจารณาถึงจำนวนผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและพร้อมที่จะทำงานได้อีก หรือเรียกคนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (Underemployment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีผู้ที่ทำงานต่ำกว่าระดับ 2.25 แสนคน หรือร้อยละ 0.6 ของจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด ซึ่งคนกลุ่มนี้แม้ว่าจะมีงานทำแล้วก็ตาม แต่ยังมีเวลาว่างที่มากพอและพร้อมที่จะทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ จำแนกตามเพศ พบว่า โดยปกติแล้วเพศชายมากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนมิถุนายน 2558 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงาน ต่ำกว่าระดับ 1.28 แสนคน (ร้อยละ 0.6) และเพศหญิง 9.7 หมื่นคน (ร้อยละ 0.6) ตามลำดับ
สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 มีทั้งสิ้น 3.22 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.8 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 1.26 แสนคน (จาก 4.48 แสนคน เป็น 3.22 แสนคน) และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 3.3 หมื่นคน (จาก 3.55 แสนคน เป็น 3.22 แสนคน)
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่า ลดลงจากร้อยละ 1.1 เป็น ร้อยละ 0.8 เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงาน ตามเพศใน เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 พบว่า เพศหญิงมีอัตราการว่างงานสูงกว่าเพศชายคือร้อยละ 0.9 และร้อยละ 0.8 ตามลำดับ
เมื่อพิจารณถึงจำนวนผู้ว่างงาน พบว่า ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 1.58 แสนคน และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 1.64 แสนคน ซึ่งลดลง 8.1 หมื่นคน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว(จาก 2.45 แสนคนเป็น 1.64 แสนคน) โดยเป็น ผู้ว่างงานจากภาคการบริการและการค้า 8.3 หมื่นคน ภาคการผลิต 5.3 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 2.8 หมื่นคน ตามลำดับ
สำหรับการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุระหว่าง 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 4.4 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 กลุ่มวัยเยาวชนอัตรา การว่างงานลดลงจากร้อยละ 5.6 เป็นร้อยละ 4.4 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558 กลุ่มวัยเยาวชน มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.3 เป็นร้อยละ 4.4 สำหรับในกลุ่มวัยผู้ใหญ่อัตราการว่างงานลดลงจากร้อยละ 0.6 เป็นร้อยละ 0.4 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานใน เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา 1.30 แสนคน (อัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.5) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 6.8 หมื่นคน (ร้อยละ 1.1) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 5.1 หมื่นคน (ร้อยละ 0.8) ระดับประถมศึกษา 4.6 หมื่นคน (ร้อยละ 0.5) และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 2.7 หมื่นคน (ร้อยละ 0.3) และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 พบว่า จำนวนผู้ว่างงานในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นลดลงมากที่สุด 5.2 หมื่นคน รองลงมาเป็นระดับอุดมศึกษา 3.0 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ร้อยละ 2.0 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 1.9 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประ5มศึกษา 5.0 พันคน
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ว่างงาน เป็นรายภาค พบว่า ภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานสูงสุด 9.2 หมื่นคน อัตราการว่างงาน (ร้อยละ 0.8) รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7.9 หมื่นคน (ร้อยละ 0.8) ภาคใต้ 5.5 หมื่นคน (ร้อยละ 1.1) ภาคเหนือ 5.3 หมื่นคน (ร้อยละ 0.8) และกรุงเทพมหานคร 4.3 หมื่นคน (ร้อยละ 0.8) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2557 จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ว่างงานทั่วประเทศลดลง 1.26 แสนคน (จาก 4.48 แสนคน เป็น 3.22 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ภาคกลางจำนวนผู้ว่างงานลดลงมากที่สุด 3.5 หมื่นคน รองลงมาเป็นกรุงเทพมหานคร 2.8 หมื่นคน ภาคเหนือ 2.4 หมื่นคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2.2 หมื่นคน และภาคใต้ 1.7 หมื่นคน ตามลำดับ