สำหรับจำนวนผู้มีงาน 38.49 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 13.51 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 24.98 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2557 พบว่า จำนวนผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมลดลง 1.3 แสนคน ในขณะที่นอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 2.5 แสนคน โดยเพิ่มขึ้นในสาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ 9.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยง การบริการซักรีดและซักแห้ง เป็นต้น 8.0 หมื่นคนสาขาการก่อสร้าง 6.0 หมื่นคน สาขาการผลิต สาขากิจกรรมทางการเงินและการประกันภัยและสาขาการศึกษา 4.0 หมื่นคน และสาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศและการประกันสังคมภาคบังคับ 2.0 หมื่นคน ส่วนสาขาที่ลดลงมากที่สุดคือสาขาการขายส่งการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และรถจักรยานยนต์ 1.9 แสนคน สาขากิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ 8.0 หมื่นคน สำหรับสาขาการขนส่งและส5นที่เก็บสินค้า และสาขา ที่พักแรมและบริการด้านอาหารไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ
หากพิจารณาถึงจำนวนผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและพร้อมที่จะทำงานได้อีก หรือเรียกคนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (Underemployment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีผู้ที่ทำงานต่ำกว่าระดับ 1.75 แสนคน หรือร้อยละ 0.5 ของจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด ซึ่งคนกลุ่มนี้แม้ว่าจะมีงานทำแล้วก็ตาม แต่ยังมีเวลาว่างที่มากพอและพร้อมที่จะทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ จำแนกตามเพศ พบว่า โดยปกติแล้วเพศชายมากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนสิงหาคม 2558 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงาน ต่ำกว่าระดับ 1.03 แสนคน (ร้อยละ 0.5) และเพศหญิง 7.2 หมื่นคน (ร้อยละ 0.4) ตามลำดับ
สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 มีทั้งสิ้น 3.77 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.0 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 9 หมื่นคน (จาก 2.87 แสนคน เป็น 3.77 แสนคน) แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 8 พันคน (จาก 3.85 แสนคน เป็น 3.77 แสนคน)
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.7 เป็นร้อยละ 1.0
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงาน ตามเพศใน เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 พบว่า เพศหญิงมีอัตราการว่างงานสูงกว่าเพศชายคือร้อยละ 1.0 และร้อยละ 0.9 ตามลำดับ
เมื่อพิจารณาถึงจำนวนผู้ว่างงาน พบว่า ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 2.12 แสนคน และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 1.65 แสนคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.6 หมื่นคน จากช่วงเวลาเดียวกันของ ปีที่แล้ว (จาก 1.49 แสนคนเป็น 1.65 แสนคน) โดยเป็น ผู้ว่างงานจากภาคการบริการและการค้า 7.7 หมื่นคน ภาคการผลิต 6.9 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 1.9 หมื่นคน ตามลำดับ
สำหรับการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุระหว่าง 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 5.6 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 กลุ่มวัยเยาวชนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.4 เป็นร้อยละ 5.6 และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 กลุ่มวัยเยาวชน มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.5 เป็นร้อยละ 5.6 สำหรับในกลุ่มวัยผู้ใหญ่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.3 เป็นร้อยละ 0.4 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานใน เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา 1.57 แสนคน (อัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.9) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 8.9 หมื่นคน (ร้อยละ 1.5) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 7.4 หมื่นคน (ร้อยละ 1.2) ระดับประถมศึกษา 4.4 หมื่นคน (ร้อยละ 0.5) และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 1.3 หมื่นคน (ร้อยละ 0.1) และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 พบว่า จำนวนผู้ว่างงานในระดับประถมศึกษาลดลงมากที่สุด 1.2 หมื่นคน รองลงมาเป็นผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 4 พันคน ส่วนที่เพิ่มขึ้นคือระดับอุดมศึกษา 4.6 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย 3.3 หมื่นคน และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 2.7 หมื่นคน
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ว่างงาน เป็นรายภาค พบว่า ภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานสูงสุด 1.12 แสนคน อัตราการว่างงาน (ร้อยละ 1.0) รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9.7 หมื่นคน (ร้อยละ 0.9) ภาคใต้ 6.6 หมื่นคน (ร้อยละ 1.3) กรุงเทพมหานคร 5.7 หมื่นคน (ร้อยละ 1.1) และภาคเหนือ 4.5 หมื่นคน (ร้อยละ 0.7) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2557 จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ว่างงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 9 หมื่นคน (จาก 2.87 แสนคน เป็น 3.77 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุด 3.7 หมื่นคน รองลงมาเป็นกรุงเทพมหานคร 2.7 หมื่นคน ภาคกลาง 2.1 หมื่นคน และภาคใต้ 9 พันคน ส่วนภาคเหนือลดลง 4 พันคน