-เมษายน พ.ศ. 2558 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหลักประกันด้านสุขภาพ การเจ็บป่วย การไปรับบริการสาธารณสุข และข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งสรุปผล การสำรวจได้ดังนี้
จากผลการสำรวจ พบว่า ประชากรได้รับสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องคือ จากร้อยละ 96.0 ในปี 2549 เป็นร้อยละ 98.5 ในปี 2558
โดยในปี 2558 ประเภทสวัสดิการค่า( คือ บัตรประกันสุขภาพ รักษาพยาบาลที่ได้รับสูงสุด
บัตรทอง) ร้อยละ 75.3 รองลงมา คือ บัตรประกันสังคม/กองทุนเงินทดแทน และสวัสดิการข้าราชการ/ข้าราชการบำนาญ ร้อยละ 16.4 และ ร้อยละ 7.5 ตามลำดับ สำหรับการประกันสุขภาพกับบริษัทประกันซึ่งเป็นสวัสดิการที่ไม่ใช่จากภาครัฐ พบว่ามีถึงร้อยละ 6.7
2. สถานการณ์ด้านสุขภาพ
2.1 การเจ็บป่วย
ในปี 2558 พบว่ามีผู้ป่วยที่ไม่ต้องนอนพักรักษาในสถานพยาบาลระหว่าง 1 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์ทั้งสิ้น 19.4 ล้านคน (ร้อยละ 28.8) เป็นผู้ชาย 8.5 ล้านคน และผู้หญิง 10.9 ล้านคน โดยเป็นผู้ที่มีอาการป่วย/ รู้สึกไม่สบาย 11.4 ล้านคน (ร้อยละ 16.9) เป็นผู้ที่มีโรคเรื้อรัง/โรคประจำตัว 11.7 ล้านคน (ร้อยละ 17.5) และเป็นผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุ/ถูกทำร้าย 1.5 ล้านคน (ร้อยละ 2.2)โดยผู้หญิงมีสัดส่วนของอาการป่วย/รู้สึกไม่สบายและมีโรคเรื้อรัง/โรคประจำตัวสูงกว่าผู้ชายอย่างเห็นได้ชัดในขณะที่ผู้ชายมีสัดส่วนของการเกิดอุบัติเหตุ/ถูกทำร้ายสูงกว่าผู้หญิง
ในขณะที่มีผู้ป่วยที่ต้องนอนพักรักษาในสถานพยาบาลระหว่าง 12 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์จำนวน 3.2 ล้านคน (ร้อยละ 4.7) ซึ่งในจำนวนนี้พบว่าผู้หญิงมีการป่วยที่สูงกว่าผู้ชาย
เมื่อพิจารณาตามกลุ่มอายุ พบว่ากลุ่มอายุ 0-14 ปี มีอัตราการเจ็บป่วยที่ไม่ต้องนอนพักรักษาในสถานพยาบาลในระหว่าง 1 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์ร้อยละ 20.9 ส่วนกลุ่มอายุ 15-24 ปี มีอัตราการเจ็บป่วยต่ำสุด (ร้อยละ 15.5) และอัตราการเจ็บป่วยจะเพิ่มสูงขึ้นตามกลุ่มอายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมีอัตราการเจ็บป่วยสูงสุด (ร้อยละ 63.6)
ส่วนอัตราการเจ็บป่วยที่ต้องนอนพักรักษาในสถานพยาบาลในระหว่าง 12 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์พบว่ากลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป มีอัตราการเจ็บป่วยที่ต้องนอนพักรักษาในสถานพยาบาลมากที่สุด (ร้อยละ 6.9) และในกลุ่มอายุ 0-14 ปี มีอัตราการเจ็บป่วยที่ต้องนอนพักรักษาฯต่ำสุด(ร้อยละ 3.5)
เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจที่ผ่านมา พบว่าผู้ป่วยที่ไม่ต้องนอนพักรักษาฯในระหว่าง 1 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 28.2 ในปี 2549 เป็นร้อยละ 29.3 ในปี 2554 และลดลงเล็กน้อยเป็นร้อยละ 28.8 ในปี 2558 และเมื่อพิจารณาตามลักษณะของการเจ็บป่วย พบว่าผู้ที่ป่วยเพราะมีอาการป่วย/รู้สึกไม่สบาย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 16.3 ในปี 2549 เป็นร้อยละ 21.0 ในปี 2556 แล้วลดลงเป็นร้อยละ 16.9 ในปี 2558
สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง/โรคประจำตัวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15.6 ในปี 2549 เป็นร้อยละ 17.5 ในปี 2558 ตามลำดับ แต่ผู้ที่เจ็บป่วยเพราะได้รับอุบัติเหตุ/ถูกทำร้ายมีแนวโน้มลดลงจากปี 2549 (ร้อยละ 4.9) และแนวโน้มเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตั้งแต่ปี 2552 - 2558 คืออยู่ระหว่างร้อยละ 2.2 - 2.5
ส่วนผู้ป่วยที่ต้องนอนพักรักษาฯ ในระหว่าง 12 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์ มีสัดส่วนลดลงจากร้อยละ 6.4 ในปี 2549 เป็นร้อยละ 4.7 ในปี 2558
ทันตกรรม ในระหว่าง 12 เดือนก่อนวัน
2.2 การรับบริการส่งเสริมสุขภาพและบริการ
สัมภาษณ์ ในระหว่าง 12 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์มีผู้ที่ ไปรับบริการส่งเสริมสุขภาพเช่น การไปรับวัคซีน การตรวจสุขภาพประจำปี การฝาก/ตรวจครรภ์ เป็นต้น จำนวน 8.2 ล้านคน (ร้อยละ 12.3) สำหรับผู้ไปรับบริการทันตกรรม เช่น การขูดหินปูน การตรวจรักษาสุขภาพในช่องปาก การอุดฟัน เป็นต้น พบว่ามีผู้ไปรับบริการฯ 5.4 ล้านคน (ร้อยละ 8.1) ซึ่งมีข้อสังเกตว่าทั้ง 2 กรณี สัดส่วนของหญิงจะมากกว่าชาย
เมื่อจำแนกตามกลุ่มอายุ พบว่าในระหว่าง 12 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์ กลุ่มอายุ 0-14 ปี มีอัตราการรับบริการส่งเสริมสุขภาพ ร้อยละ 14.2 ส่วนกลุ่มอายุอื่นๆ จะมีอัตราการรับบริการส่งเสริมสุขภาพที่ แปรผันมากขึ้นตามกลุ่มอายุที่เพิ่มขึ้น โดยกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป มีอัตราการรับบริการส่งเสริมสุขภาพสูงสุด (ร้อยละ 16.4)
สำหรับอัตราการรับบริการทันตกรรมในระหว่าง 12 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์
พบว่าผู้ที่มีอายุ 0-14 ปี ไปรับบริการทันตกรรมสูงสุด (ร้อยละ 9.8) ส่วนกลุ่มอายุอื่นๆ จะมีอัตราการรับบริการทันตกรรมที่แปรผันลดลงตามกลุ่มอายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจที่ผ่านมา พบว่าในระหว่าง 12 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์แนวโน้มของผู้รับบริการทันตกรรมในช่วงปี 2549 - 2556 พบว่ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้น คือจากร้อยละ 7.4 ในปี 2549 เป็น ร้อยละ 9.5 ในปี 2556 แต่ในปี 2558 กลับมีแนวโน้มลดลงค่อนข้างมาก กล่าวคือ มีผู้รับรับบริการทันตกรรม ร้อยละ 8.1
สำหรับผู้รับบริการส่งเสริมสุขภาพเป็นครั้งแรกในปี 2558 ที่มีการถามการใช้บริการฯในระหว่าง 12 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์ จึงไม่มีข้อมูลเดิมมาเปรียบเทียบ
ในปี 2558 ผู้ป่วยที่ไม่ต้องนอนพักรักษาในสถานพยาบาลในระหว่าง 1 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์ส่วนใหญ่ได้รับการบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายร้อยละ 57.1 โดยมีแนวโน้มที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากปี 2556
ในระหว่าง 12 เดือนก่อนวันสัมภาษณ์มีผู้รับบริการส่งเสริมสุขภาพ ผู้ป่วยที่ต้องนอนพักรักษาในสถานพยาบาลและผู้รับบริการทันตกรรมที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากปี 2556 โดยในปี 2558 ผู้รับบริการส่งเสริมสุขภาพ ผู้ป่วยที่ต้องนอนพักรักษาในสถานพยาบาล
และผู้รับบริการทันตกรรมที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายมีร้อยละ 83.9 70.0 และ 46.9 ตามลำดับ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ที่ไปรับบริการ ทันตกรรมเกินครึ่งมีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการดังกล่าวซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีสัดส่วนการใช้บริการในสถานพยาบาลเอกชนค่อนข้างสูง
4. พฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุรา/เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ของประชากร
4.1 การสูบบุหรี่
ผลการสำรวจประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป พบว่าในปี 2558 มีผู้ที่สูบบุหรี่ 10.9 ล้านคน (ร้อยละ 19.9) และมีแนวโน้มการสูบบุหรี่ลดลงจากร้อยละ 23.0 ในปี 2547 เป็นร้อยละ 19.9 ในปี 2558 โดยผู้ชายและผู้หญิงมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ลดลงเช่นเดียวกับภาพรวม พบว่าในปี 2558 มีผู้ที่ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มี
4.2 การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
1ผลการสำรวจประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป แอลกอฮอล์จำนวน 18.6 ล้านคน (ร้อยละ 34.0) โดยมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น
คือ จากร้อยละ 32.7 ในปี 2547 เป็นร้อยละ 34.0 ในปี 2558 และเมื่อพิจารณาตามเพศ พบว่า ทั้งผู้ชายและผู้หญิงมีการดื่มสุราฯ ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2547