บทสรุปสำหรับผู้บริหาร ภาวะการทำงานของปีระชากร เดือนมีนาคม พ.ศ. 2559
โครงสร้างกำลังแรงงาน
ผลการสำรวจภาวะการทำงานของปีระชากร เดือนมีนาคม พ.ศ. 2559 พบว่า จำนวนผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 55.50 ล้านคน โดยเป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อมที่จะทำงาน 38.35 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วย ผู้มีงานทำ 37.61 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.97 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 3.45 แสนคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงานหรือผู้ที่ไม่พร้อมทำงาน 17.15 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน คนชรา เป็นต้น
ภาวะการทำงาน
- การทำงาน
สำหรับจำนวนผู้มีงานทำ 37.61 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 11.25 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 26.36 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558 พบว่า จำนวนผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมลดลง 3.8 แสนคน (จาก 11.63 ล้านคน เป็น 11.25 ล้านคน) ส่วนให้ญ่เป็นการลดลงในการปลูกข้าวจ้าว การปลูกอ้อย และการปลูกข้าวเหนียวมากที่สุด แต่นอกภาคเกษตรกรรมมีจำนวน ผู้ทำงานเพิ่มขึ้น 3.7 แสนคน (จาก 25.99 ล้านคน เป็น 26.36 ล้านคน) ในจำนวนนี้เป็นการเพิ่มขึ้นในสาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และรถจักรยานยนต์ 2.4 แสนคน สาขาการก่อสร้าง 1.8 แสนคน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 8.0 หมื่นคน สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 7.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ และสาขากิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตวเลี้ยง การบริการซักรีดและซักแห้ง เป็นต้น ประมาณ 6.0 หมื่นคน และสาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ 5.0 หมื่นคน ส่วนสาขาการผลิตลดลงมากที่สุด 3.7 แสนคน สาขาการศึกษา 3.0 หมื่นคน และสาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศและการประกันสังคม ภาคบังคับ 2.0 หมื่นคน และที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ
- การทำงานต่ำกว่าระดับ
หากพิจารณาถึงจำนวนผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและต้องการที่จะทำงานเพิ่ม หรือเรียกคนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (Underemployment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีผู้ที่ทำงานต่ำกว่าระดับ 2.60 แสนคน หรือร้อยละ 0.7 ของจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด ซึ่งคนกลุ่มนี้แม้ว่าจะมีงานทำแล้วก็ตาม แต่ยังมีเวลาว่างที่มากพอและต้องการที่จะทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มรายได้ให้กับต้นเอง
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ จำแนกตามเพศ พบว่า โดยปกติแล้วเพศชายมากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนมีนาคม 2559 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงาน ต่ำกว่าระดับ 1.51 แสนคน (ร้อยละ 0.7) และเพศหญิง 1.09 แสนคน (ร้อยละ 0.6) ตามลำดับ
ภาวะการว่างงาน
- จำนวนผู้ว่างงาน
สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559 มีทั้งสิ้น 3.97 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.0 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 1.9 หมื่นคน (จาก 3.78 แสนคน เป็น 3.97 แสนคน) แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 6.2 หมื่นคน (จาก 3.35 แสนคน เป็น 3.97 แสนคน)
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่าอัตราการว่างงานไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม (ร้อยละ 1.0) หากเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.9 เป็นร้อยละ 1.0
- การว่างงานตามเพศ
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงาน ตามเพศใน เดือนมีนาคม พ.ศ. 2559 พบว่า เพศชายมีอัตราการว่างงานสูงกว่าเพศหญิง คือร้อยละ 1.2 และร้อยละ 0.8
- การว่างงานตามกลุ่มอายุ
สำหรับการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุ 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 5.2 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.5 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 กลุ่มวัยเยาวชนมีอัตรา การว่างงานเพิ่มขึ้นคือจากร้อยละ 4.9 เป็นร้อยละ 5.2 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 กลุ่มวัยเยาวชน มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.0 เป็นร้อยละ 5.2 สำหรับในกลุ่มวัยผู้ใหญ่อัตราการว่างงานไม่เปลี่ยนแปลงคือร้อยละ 0.5 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
- การว่างงานตามระดับการศึกษาที่สำเร็จ
สำหรับระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานใน เดือนมีนาคม พ.ศ. 2559 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา 1.13 แสนคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 1.4) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 1.04 แสนคน (ร้อยละ 1.7) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า 1.03 แสนคน (ร้อยละ 1.7) ระดับประถมศึกษา 4.7 หมื่นคน (ร้อยละ 0.5) และ ผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 3.0 หมื่นคน (ร้อยละ 0.3) และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 พบว่า จำนวนผู้ว่างงานในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเพิ่มขึ้น 2.6 หมื่นคน ผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษาเพิ่มขึ้น 1.0 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าเพิ่มขึ้น 5.0 พันคน ส่วนระดับประถมศึกษาลดลง 1.3 หมื่นคน และระดับอุดมศึกษาลดลง 8.0 พันคน
- การว่างงานตามประสบการณ์
เมื่อพิจารณาถึงจำนวนผู้ว่างงาน พบว่า เป็นผู้ว่างงานที่ ไม่เคยทำงานมาก่อน 1.72 แสนคน และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 2.25 แสนคน ซึ่งในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น 3.0 หมื่นคน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (จาก 1.95 แสนคน เป็น 2.25 แสนคน) โดยเป็นผู้ว่างงานจากภาคการบริการและการค้า 9.7 หมื่นคน ภาคการผลิต 8.5 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 4.3 หมื่นคน ตามลำดับ
ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 1.72 แสนคนสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษามากที่สุดคือ 8.1 หมื่นคน ในจำนวนนี้เป็นผู้สำเร็จอุดมศึกษาสายวิชาการ 5.3 หมื่นคน สายอาชีวศึกษา 2.3 หมื่นคน สายวิชาการศึกษา 5.0 พันคน รองลงมาเป็นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า 4.8 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3.1 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 9.8 พันคน และไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 3.0 พันคน
ผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 2.25 แสนคนสำเร็จการศึกษาระดับระดับมัธยมศึกษาตอนต้นมากที่สุด 7.3 หมื่นคน รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า 5.5 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 3.8 หมื่นคน อุดมศึกษา 3.2 หมื่นคน และไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 2.7 หมื่นคน
- การว่างงานแต่ละภูมิภาค
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ว่างงาน เป็นรายภาค พบว่า ภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานสูงสุด 1.49 แสนคน (อัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.3) รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9.7 หมื่นคน (ร้อยละ 1.0) ภาคเหนือ 6.4 หมื่นคน (ร้อยละ 1.0) ภาคใต้ 4.8 หมื่นคน (ร้อยละ 0.9) และกรุงเทพมหานคร 3.9 หมื่นคน (ร้อยละ 0.7)
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558 จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ว่างงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 1.9 หมื่นคน (จาก 3.78 แสนคน เป็น 3.97 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็น รายภาค พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุด 2.0 หมื่นคน รองลงมาเป็นภาคเหนือ 1.5 หมื่นคน และภาคกลาง 5.0 พันคน ส่วนกรุงเทพมหานคร มีจำนวนผู้ว่างงานลดลง 2.1 หมื่นคน ในขณะที่ภาคใต้จำนวน ผู้ว่างงานไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว