โครงสร้างกำลังแรงงาน
ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559 พบว่า จำนวนผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 55.63 ล้านคน โดยเป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อมที่จะทำงาน 38.84 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วย ผู้มีงานทำ 38.40 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.91 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 5.26 หมื่นคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงานหรือผู้ที่ไม่พร้อมทำงาน 16.79 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน คนชรา เป็นต้น
ภาวะการทำงาน
สำหรับจำนวนผู้มีงานทำ 38.40 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 12.43 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 25.97 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 พบว่า จำนวนผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 3.0 แสนคน (จาก 12.13 ล้านคน เป็น 12.43 ล้านคน) ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นในการปลูกข้าวเหนียว การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การปลูกปาล์มน้ำมัน และการปลูกกล้วย แต่นอกภาคเกษตรกรรมจำนวนผู้ทำงานไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (25.97 ล้านคน) หากพิจารณาผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรม ยังพบว่า มีจำนวน ผู้ทำงานเพิ่มขึ้นใน สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และรถจักรยานยนต์ 2.6 แสนคน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 1.4 แสนคน สาขากิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยงการบริการซักรีดและซักแห้ง เป็นต้น 1.1 แสนคน สาขากิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ 1.0 แสนคน และสาขากิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย 5.0 หมื่นคน ส่วนสาขาที่ลดลงคือ สาขาการผลิต 3.7 แสนคน สาขาการบริหารราชการการป้องกันประเทศและการประกันสังคมภาคบังคับ 1.2 แสนคน สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 9.0 หมื่นคน และที่เหลือกระจายอยูในสาขาอื่นๆ
หากพิจารณาถึงจำนวนผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและต้องการที่จะทำงานเพิ่ม หรือเรียกคนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (Underemployment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีผู้ที่ทำงานต่ำกว่าระดับ 1.77 แสนคน หรือร้อยละ 0.5 ของจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด ซึ่งคนกลุ่มนี้แม้ว่าจะมีงานทำแล้วก็ตาม แต่ยังมีเวลาว่างที่มากพอและต้องการที่จะทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ จำแนกตามเพศ พบว่า โดยปกติแล้วเพศชายมากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนกรกฎาคม 2559 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงาน ต่ำกว่าระดับ 1.11 แสนคน (ร้อยละ 0.5) และเพศหญิง 6.6 หมื่นคน (ร้อยละ 0.4) ตามลำดับ
ภาวะการว่างงาน
สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559 มีทั้งสิ้น 3.91 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.0 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 6.0 พันคน (จาก 3.85 แสนคน เป็น 3.91 แสนคน) และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 1.0 พันคน (จาก 3.92 แสนคน เป็น 3.91 แสนคน)
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่าอัตราการว่างงานไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หากเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาอัตราการว่างงานไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเช่นกัน
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงาน ตามเพศใน เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559 พบว่า เพศหญิงมีอัตราการว่างงานร้อยละ 1.1 และเพศชายมีอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.9
สำหรับการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่ม วัยเยาวชน หรือผู้มีอายุ 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 5.4 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.5 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 กลุ่มวัยเยาวชนมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นคือจากร้อยละ 4.5 เป็นร้อยละ 5.4 และ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 กลุ่มวัยเยาวชน มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.1 เป็นร้อยละ 5.4 สำหรับในกลุ่มวัยผู้ใหญอัตราการว่างงานลดลงจากร้อยละ 0.6 เป็นร้อยละ 0.5 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ที่ผ่านมา
สำหรับระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานใน เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา 1.96 แสนคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 2.4)รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 7.7 หมื่นคน (ร้อยละ 1.2) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า 5.5 หมื่นคน (ร้อยละ 0.9) ระดับประถมศึกษา 3.8 หมื่นคน (ร้อยละ 0.4) และ ผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 2.5 หมื่นคน (ร้อยละ 0.3) และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 พบว่า จำนวนผู้ว่างงานในระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น 7.3 หมื่นคน และ ผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 3.0 พันคน จำนวนผู้ว่างงานที่ลดลงคือ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าลดลง 2.3 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนตนลดลง 1.0 หมื่นคน และระดับประถมศึกษาลดลง 8.0 พันคน
เมื่อพิจารณาถึงจำนวนผู้ว่างงาน พบว่า เป็นผู้ว่างงานที่ ไม่เคยทำงานมาก่อน 1.93 แสนคน และผู้ว่างงานที่เคยทำงาน มาก่อน 1.98 แสนคน ซึ่งในกลุ่มนี้ลดลง 9.0 พันคน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (จาก 2.07 แสนคน เป็น 1.98 แสนคน) โดยเป็นผู้ว่างงานจากภาคการบริการ และการค้า 9.3 หมื่นคน ภาคการผลิต 8.9 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 1.6 หมื่นคน ตามลำดับ
สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษามากที่สุด 1.38 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นผู้สำเร็จสายวิชาการ 8.3 หมื่นคน สายวิชาการศึกษา 3.2 หมื่นคน สายอาชีวศึกษา 2.3 หมื่นคน รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3.0 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า 1.8 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 6.0 พันคน และไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 1.0 พันคน
สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษามากที่สุด 5.8 หมื่นคน รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนตน 4.7 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า 3.7 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 3.2 หมื่นคน และไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 2.4 หมื่นคน
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ว่างงาน เป็นรายภาค พบว่า ภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานสูงสุด 1.12 แสนคน (ร้อยละ 1.0) รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9.5 หมื่นคน (ร้อยละ 0.9) ภาคเหนือ 7.0 หมื่นคน (ร้อยละ 1.1) ภาคใต้ 6.2 หมื่นคน (ร้อยละ 1.2) และกรุงเทพมหานคร 5.2 หมื่นคน (ร้อยละ 1.0)
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ว่างงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 6.0 พันคน (จาก 3.85 แสนคน เป็น 3.91 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็น รายภาค พบว่า ภาคเหนือเพิ่มขึ้นมากที่สุด 1.3 หมื่นคน และกรุงเทพมหานคร 2.0 พันคน ส่วนที่ลดลงคือภาคกลาง 7.0 พันคน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2.0 พันคน ส่วนภาคใต้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม