สรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร
เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2560
ดำเนินการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรหรือสำรวจแรงงานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เริ่มตั้งแต่ปี 2506 โดยในช่วงแรก สำรวจเพียงปีละ 2 รอบ รอบแรกเป็นการสำรวจนอกฤดูเกษตร รอบที่ 2 เป็นฤดู เกษตร ต่อมาในปี 2527 - 2540 สำรวจปีละ 3 รอบ โดยเพิ่มสำรวจช่วงเดือนพฤษภาคมเพื่อดูแรงงานที่จบการศึกษาใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานและในปี 2541 ได้เพิ่มการสำรวจขึ้นอีก 1 รอบ
เดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตการเกษตร ทำให้การสำรวจภาวะการทำงานของประชากรครบทั้ง 4 ไตรมาสของปี ในปี 2544 สำนักงานสถิติแห่งชาติปรับปรุง การสำรวจเป็นรายเดือน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถติดตาม ภาวะการมีงานทำของประชากรได้อย่างใกล้ชิดและ เสนอผลการสำรวจเป็นรายเดือนในระดับประเทศและภาค
ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือนมิถุนายน พ.ศ.2560 พบว่าจำนวนผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 55.95 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อม จะทำงาน 38.82 ล้านคน ซึ่งประกอยด้วยผู้มีงานทำ 38.32 ล้านคน ผู้ว่างงาน 4.15 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 8.7 หมื่นคน ส่วนผู้ที่อยู่ นอกกำลังแรงงานหรือผู้ที่ไม่พร้อมทำงาน 17.13 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน คนชรา เป็นต้น
การทำงาน สำหรัยจำนวนผู้มีงานทำ 38.32 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2559 0.15 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 13.12 ล้านคน และนอกภาค เกษตรกรรม 25.20 ล้านคน เมื่อเปรียยเทียบกับเดือน มิถุนายน พ.ศ. 2559 พยว่า ในภาคเกษตรกรรม มีจำนวนผู้ทำงานเพิ่มขึ้น 5.6 แสนคน ส่วนใหญ่เป็น การเพิ่มขึ้นในการปลูกข้าวจ้าว การปลูกข้าวเหนียว การปลูกต้นยางพารา แต่นอกภาคเกษตรกรรมมีจำนวน ผู้ทำงานลดลง 4.1 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นการลดลงในสาขา การผลิต 1.8 แสนคน สาขาการขายส่งและการ ขายปลีก การซ่อมยานยนต์และรถจักรยานยนต์ 1.2 แสนคน สาขาการก่อสร้าง และสาขาการยริหารราชการ การป้องกัน-ประเทศ และการประกันสังคมภาคยังคับ 9.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมทางการเงิน และการประกันภัย 7.0 หมื่นคน สาขาที่พักแรม และการบริการด้านอาหาร 4.0 หมื่นคน ส่วนสาขาที่เพิ่มขึ้นคือ สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า เพิ่มขึ้น 9.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์และ สาขากิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อ สร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยง การบริการ ซักรีดและซักแห้ง 7.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมด้านสุขภาพ และงานสังคมสงเคราะห์ 1.0 หมื่นคน ส่วนสาขาการศึกษา ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและที่เหลือกระจายอยู่ใน สาขาอื่นๆ
เมื่อพิจารณาถึงชั่วโมงทำงานของผู้มีงานทำต่อ สัปดาห์ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 พบว่า ส่วนใหญ่ ทำงานตั้งแต่ 35 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์ซึ่งถือได้ว่าเป็น ผู้ทำงานเต็มที่ในเรื่องชั่วโมงทำงานมีจำนวน 32.58 ล้านคน หรือร้อยละ 85.0 ของผู้มีงานทำทั้งหมด และผู้ที่ทำงาน 1 - 34 ชั่วโมง มีจำนวน 5.51 ล้านคน หรือร้อยละ 14.4 สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำงานในสัปดาห์สำรวจ (ระหว่าง 7 วัน ก่อนวันสัมภาษณ์) แต่เป็นผู้มีงานประจำซึ่งถือว่าสัปดาห์ การสำรวจไม่มีชั่วโมงการทำงาน (0 ชั่วโมง) มีจำนวน 2.3 แสนคน หรือ ร้อยละ 0.6
การทำงานต่ำระดับหากพิจารณาถึงจำนวน ผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพซึ่งคนกลุ่มนี้ เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและต้องการที่จะทำงานเพิ่มหรือ เรียกคนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (UnderemPloyment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีจำนวน 3.02 แสนคน หรือร้อยละ 0.8 ของจำนวนผู้ทำงาน ทั้งหมด เมื่อพิจารณาตามเพศพบว่า โดยปกติแล้วเพศชาย มากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ 1.77 แสนคน (ร้อยละ 0.9) และเพศหญิง 1.25 แสนคน (ร้อยละ 0.7)
จำนวนการว่างงาน สำหรัยจำนวนผู้ว่างงานในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 มีทั้งสิ้น 4.15 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.1 เมื่อเปรียบเทียบกัยช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 2.3 หมื่นคน และเมื่อเปรียบเทียบกับ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 8.6 หมื่นคน
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับช่วงเวลาเดียวกัน ของปีที่ผ่านมา พบว่า อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น (จากร้อยละ 1.0 เป็นร้อยละ 1.1) หากเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาอัตราการว่างงาน ลดลง (จากร้อยละ 1.3 เป็นร้อยละ 1.1)
เมื่อพิจารณาอัตราการว่างงานตามเพศใน เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 พบว่าเพศชายและ เพศหญิงมีอัตราว่างงานเท่าๆกัน คือร้อยละ 1.1
หากเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2560 จะเห็นว่าอัตราการว่างงาน เพศชายลดลง (จากร้อยละ 1.4 เป็นร้อยละ1.1) และเพศหญิงลดลง (จากร้อยละ 1.2 เป็นร้อยละ1.1)
สำหรับการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุ 15-24 ปี มีอัตราการว่างงาน ร้อยละ 5.8 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้ อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.5 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 กลุ่มวัยเยาวชน มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.1 เป็นร้อยละ 5.8
สำหรัยระดัยการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานใน เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษา ในระดัยอุดมศึกษา 1.29 แสนคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 1.5) รองลงมาเป็นระดัยมัธยมศึกษาตอนต้น 9.9 หมื่นคน (ร้อยละ 1.6) ระดับมัธยมศึกษาตนปลาย 9.9 หมื่นคน (ร้อยละ 1.6) ระดับประถมศึกษา 4.9 หมื่นคน (ร้อยละ 0.6) และผู้ที่ไม่มี การศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 3.0 หมื่นคน (ร้อยละ 0.3) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 พบว่า จำนวน ผู้ว่างงานในระดับอุดมศึกษาลดลง 5.0 หมื่นคน สำหรัยระดับ มัธยมศึกษาตอนต้นเพิ่มขึ้น 3.6 หมื่นคน ผู้ที่ไม่มีการศึกษาและ ต่ำกว่าประถมศึกษาเพิ่มขึ้น 1.3 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษา ตอนปลายเพิ่มขึ้น 1.0 หมื่นคน และระดับประถมศึกษาเพิ่มขึ้น 7.0 พันคน
เมื่อพิจารณาถึงจำนวนผู้ว่างงาน พบว่า เป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 2.28 แสนคน และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 1.87 แสนคน ซึ่งในกลุ่มนี้ลดลง 1.2 หมื่นคน เมื่อเปรียบเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 2.28 แสนคน สำเร็จการศึกษาระดัยอุดมศึกษา 9.2 หมื่นคน ในจำนวนนี้เป็น ผู้สำเร็จสายวิชาการ 5.6 หมื่นคน สายอาชีวศึกษา 2.2 หมื่นคน และสายวิชาการศึกษา 1.4 หมื่นคน รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย 5.1 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 4.2 หมื่นคน และระดับประถมศึกษา 2.4 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษา และต่ำกว่าประถมศึกษา 1.7 หมื่นคน
ผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน จำนวน 1.87 แสนคน สำเร็จการศึกษาระดัยมัธยมศึกษาตอนต้น 5.7 หมื่นคน ระดัย มัธยมศึกษาตอนปลาย 4.8 หมื่นคน ระดับอุดมศึกษา 3.7 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 2.4 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษา และต่ำกว่าประถมศึกษา 1.3 หมื่นคน
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 จะเห็นได้ว่า จำนวนผู้ว่างงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 2.3 หมื่นคน (จาก 3.92 แสนคน เป็น 4.51 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาคพบว่า ภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 4.3 หมื่นคน และภาคเหนือมีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 1.6 หมื่นคน สำหรับ กรุงเทพมหานครมีจำนวนผู้ว่างงานลดลง 1.3 หมื่นคน ส่วนภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวนผู้ว่างงานลดลง เท่ากัน 1.2 หมื่นคน
ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ