สรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร
เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2560
ดำเนินการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรหรือสำรวจแรงงานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เริ่มตั้งแต่ปี 2506 โดยในช่วงแรก สำรวจเพียงปีละ 2 รอบ รอบแรกเป็นการสำรวจนอกฤดูเกษตร รอบที่ 2 เป็นฤดูเกษตร ต่อมาในปี 2527 - 2540 สำรวจปีละ 3 รอบ โดยเพิ่มสำรวจช่วงเดือนพฤษภาคมเพื่อดูแรงงานที่จบการศึกษาใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานและในปี 2541 ได้เพิ่ม การสำรวจขึ้นอีก 1 รอบ เดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตการเกษตรทำให้การสำรวจภาวะการทำงานของประชากรครบทั้ง 4 ไตรมาสของปี ในปี 2544 สำนักงานสถิติแห่งชาติปรับปรุง การสำรวจเป็นรายเดือนทั้งนี้เพื่อให้สามารถติดตาม ภาวะการมีงานทำของประชากรได้อย่างใกล้ชิดและเสนอผลการสำรวจเป็นรายเดือนในระดับประเทศและภาค
ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือน สิงหาคม พ.ศ. 2560 พบว่าจำนวนผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 56.00 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อม จะทำงาน 38.08 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วยผู้มีงานทำ37.60 ล้านคน ผู้ว่างงาน 4.25 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 5.21 หมื่นคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงานหรือผู้ที่ไม่พร้อมทำงาน 17.92 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน คนชรา เป็นต้น
สำหรัยจำนวนผู้มีงานทำ 37.60 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 12.29 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 25.31 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบ กับเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 พบว่า ในภาคเกษตรกรรม มีจำนวนผู้ทำงานลดลง 6.3 แสนคน (จาก 12.92 ล้านคน เป็น 12.29 ล้านคน) ส่วนใหญ่เป็นการลดลงในการปลูกข้าวเหนียว การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และการปลูกต้นยางพารา นอกภาคเกษตรกรรมมีจำนวนผู้ทำงานลดลง 2.3 แสนคน (จาก 25.54 ล้านคน เป็น 25.31 ล้านคน) ในจำนวนนี้เป็นการลดลง ในสาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และรถจักรยานยนต์ 2.0 แสนคน สาขาการก่อสร้าง 1.2 แสนคน สาขาการผลิต 9.0 หมื่นคน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 7.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย 3.0 หมื่นคน สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า และสาขาการศึกษา 2.0 หมื่นคน ส่วนสาขาที่เพิ่มขึ้นคือสาขาการบริหารราชการการป้องกันประเทศ และการประกันสังคมภาคบังคับ 1.4 แสนคน สาขากิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ เช่นกิจกรรมบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยงการบริการซักรีด และซักแห้ง 4.0 หมื่นคน และสาขากิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ 1.0 หมื่นคน สำหรับ สาขาอสังหาริมทรัพย์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงและที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ
เมื่อพิจารณาถึงชั่วโมงทำงานของผู้มีงานทำต่อ สัปดาห์ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2560 พบว่า ส่วนใหญ่ ทำงานตั้งแต่ 35 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์ ซึ่งถือได้ว่าเป็น ผู้ทำงานเต็มที่ในเรื่องชั่วโมงทำงานมีจำนวน 32.45 ล้านคน หรือร้อยละ 86.3 ของผู้มีงานทำทั้งหมด และผู้ที่ทำงาน 1 - 34 ชั่วโมง มีจำนวน 4.96 ล้านคน หรือร้อยละ 13.2 สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำงานในสัปดาห์สำรวจ(ระหว่าง 7 วัน ก่อนวันสัมภาษณ์) แต่เป็นผู้มีงานประจำซึ่งถือว่าสัปดาห์ การสำรวจไม่มีชั่วโมงการทำงาน (0 ชั่วโมง) มีจำนวน 1.9 แสนคน หรือ ร้อยละ 0.5
การทำงานต่ำกว่าระดับหากพิจารณาถึงจำนวน ผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพซึ่งคนกลุ่มนี้ เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและต้องการที่จะทำงานเพิ่มหรือ เรียกคนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (UnderemPloyment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีจำนวน 2.48 แสนคน หรือร้อยละ 0.7 ของจำนวนผู้ทำงาน ทั้งหมด เมื่อพิจารณาตามเพศพบว่า โดยปกติแล้วเพศชาย มากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2560 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ 1.35 แสนคน (ร้อยละ0.7) และเพศหญิง 1.13 แสนคน (ร้อยละ 0.7)
การว่างงาน4.25 แสนคน
จำนวนการว่างงานในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2560 มีทั้งสิ้น 4.25 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.1 เมื่อเปรียบเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 ผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 6.5 หมื่นคน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ เดือนกรกาคม พ.ศ. 2560 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 5.1 หมื่นคน
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับช่วงเวลาเดียวกัน ของปีที่ผ่านมา พบว่า อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น (จากร้อยละ 0.9 เป็นร้อยละ 1.1) หากเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาอัตราการว่างงาน ลดลง (จากร้อยละ 1.2 เป็นร้อยละ 1.1)
เมื่อพิจารณาอัตราการว่างงานตามเพศในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2560 พบว่า เพศชายมีอัตราว่างงาน ร้อยละ 1.1 และเพศหญิงมีอัตราว่างงาน ร้อยละ 1.2
หากเปรียบเทียยอัตราการว่างงานกับเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 จะเห็นว่าอัตราการว่างงาน เพศชายลดลง (จากร้อยละ 1.3 เป็นร้อยละ 1.1) ส่วนเพศหญิงไม่มีการเปลี่ยนแปลง(ร้อยละ 1.2)
การว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุ 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 5.9 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้ อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.6 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 กลุ่มวัยเยาวชน มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.5 เป็นร้อยละ 5.9
ระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงาน ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2560 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษา ในระดับอุดมศึกษา 1.58 แสนคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 1.9) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 9.1 หมื่นคน (ร้อยละ 1.4) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 8.6 หมื่นคน (ร้อยละ 1.4) ระดับประถมศึกษา 7.1 หมื่นคน (ร้อยละ 0.9) และผู้ที่ไม่มี- การศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 1.9 หมื่นคน (ร้อยละ 0.2) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 พบว่า มัธยมศึกษาตอนต้นเพิ่มขึ้น 4.5 หมื่นคน ระดับประถมศึกษาเพื่มขึ้น 1.5 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเพิ่มขึ้น 1.2 หมื่นคน ผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษาจำนวนผู้ว่างงานเพื่มขึ้น 3.0 พันคน และผู้ว่างงานในระดับอุดมศึกษาลดลง 1.0 หมื่นคน
ประสบการณ์การทำงานของผู้ว่างงานพบว่า เป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 2.23 แสนคน และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 2.02 แสนคน ซึ่งในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น 4.7 หมื่นคน เมื่อเปรียบเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 2.23 แสนคน สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา 1.08 แสนคน ในจำนวนนี้เป็น ผู้สำเร็จสายวิชาการ 7.1 หมื่นคน สายอาชีวศึกษา 2.2 หมื่นคน และสายวิชาการศึกษา 1.5 หมื่นคน รองลงมาเป็นระดับมัธยม ศึกษาตอนปลาย 4.0 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 3.8 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาต้น 3.5 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษา และต่ำกว่าประถมศึกษา 2.0 พันคน
ผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน จำนวน 2.02 แสนคน สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 5.6 หมื่นคน ระดับอุดมศึกษา 5.0 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 4.6 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 3.3 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่า ประถมศึกษา 1.7 หมื่นคน
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 จะเห็นได้ว่า จำนวนผู้ว่างงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 6.5 หมื่นคน (จาก 3.60 แสนคน เป็น 4.25 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 5.9 หมื่นคน กรุงเทพมหานครมีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 2.4 หมื่นคน ภาคใต้มีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 1.9 หมื่นคน ในขณะที่ ภาคเหนือและภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานลดลง 1.9 หมื่นคน และ 1.8 หมื่นคน ตามลำดับ
ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ