สรุปผลการสำรวจ
ภาวะการทำงานของประชากรเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2560
สำนักงานสถิติแห่งชาติดำเนินการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรหรือสำรวจแรงงานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เริ่มตั้งแต่ปี 2506 โดยในช่วงแรก สำรวจเพียงปีละ 2 รอบ รอบแรกเป็นการสำรวจนอกฤดูเกษตร รอบที่ 2 เป็นฤดูเกษตร ต่อมาในปี 2527 - 2540 สำรวจปีละ 3 รอบ โดยเพิ่มสำรวจช่วงเดือนพฤษภาคมเพื่อดูแรงงานที่จบการศึกษาใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานและในปี 2541 ได้เพิ่ม การสำรวจขึ้นอีก 1 รอบ เดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตการเกษตรทำให้การสำรวจภาวะการทำงานของประชากรครบทั้ง 4 ไตรมาสของปี ในปี 2544 สำนักงาน-สถิติแห่งชาติปรับปรุง การสำรวจเป็นรายเดือนทั้งนี้เพื่อให้สามารถติดตาม ภาวะการมีงานทำของประชากรได้อย่างใกล้ชิดและเสนอผลการสำรวจเป็นรายเดือนในระดับประเทศและภาค
ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2560 พบว่าจำนวนผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 56.11 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อม จะทำงาน 37.72 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วยผู้มีงานทำ37.19 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.64 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 1.62 แสนคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงานหรือผู้ที่ไม่พร้อมทำงาน 18.39 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน คนชรา เป็นต้น
การมีงานทำ 37.19 ล้านคน
สำหรับจำนวนผู้มีงานทำ 37.19 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 12.26 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 24.93 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2559 พบว่า ผู้มีงานทำลดลง 1.7 แสนคน (จาก 37.36 ล้านคน เป็น 37.19 ล้านคน) โดยผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมมีจำนวนลดลง 3.1 ล้านคน (จาก 12.57 ล้านคน เป็น 12.26 ล้านคน) ส่วนใหญ่เป็นการลดลงในการปลูกยางพารา การปลูกข้าวจ้าว และการปลูกข้าวเหนียว นอกภาคเกษตรกรรม มีจำนวนผู้ทำงานเพิ่มขึ้น 1.4 แสนคน (จาก 24.79 ล้านคน เป็น 24.93 ล้านคน) ในจำนวนนี้เป็นการเพิ่มขึ้นในสาขาการผลิต 1.0 แสนคน สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 9.0 หมื่นคน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 7.0 หมื่นคน สาขาการศึกษา 5.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ 3.0 หมื่นคน และสาขากิจกรรม- การบริการด้านอื่นๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยง การบริการซักรีดและซักแห้ง 1.0 หมื่นคน ส่วนสาขาที่ลดลงคือ สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ 9.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมทางการเงิน- และการประกันภัย 6.0 หมื่นคน สาขาการบริหารราชการ- การป้องกันประเทศและการประกันสังคมภาคบังคับ 1.0 หมื่นคน สำหรับสาขาการก่อสร้างและสาขากิจกรรมด้านสุขภาพและ งานสังคมสงเคราะห์ จำนวนผู้มีงานทำไม่มีการเปลี่ยนแปลง และที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ
เมื่อพิจารณาถึงชั่วโมงทำงาน ของผู้มีงานทำต่อ สัปดาห์ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 พบว่า ส่วนใหญ่ ทำงานตั้งแต่ 35 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์ ซึ่งถือได้ว่าเป็น ผู้ทำงานเต็มที่ในเรื่องชั่วโมงทำงานมีจำนวน 31.49 ล้านคน หรือร้อยละ 84.7 ของผู้มีงานทำทั้งหมด และผู้ที่ทำงาน 1 - 34 ชั่วโมง มีจำนวน 4.84 ล้านคน หรือร้อยละ 13.0 สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำงานในสัปดาห์สำรวจ (ระหว่าง 7 วัน ก่อนวันสัมภาษณ์) แต่เป็นผู้มีงานประจำซึ่งถือว่าสัปดาห์ การสำรวจไม่มีชั่วโมงการทำงาน (0 ชั่วโมง) มีจำนวน 8.6 แสนคน หรือ ร้อยละ 2.3
การทำงานต่ำกว่าระดับ หากพิจารณาถึงจำนวน ผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ไม่เต็มเวลาซึ่งคนกลุ่มนี้ เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและต้องการที่จะทำงานเพิ่ม หรือเรียก คนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (Underemployment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีจำนวน 1.69 แสนคน หรือร้อยละ 0.5 ของจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด เมื่อพิจารณาตามเพศ พบว่า โดยปกติแล้วเพศชาย มากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ 1.17 แสนคน (ร้อยละ0.6) และเพศหญิง 0.52 แสนคน (ร้อยละ 0.3)
การว่างงาน3.64 แสนคน
จำนวนการว่างงานในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 มีทั้งสิ้น 3.64 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.0 เมื่อเปรียบเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 6.1 หมื่นคน และเมื่อเปรียบเทียบกับ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2560 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 7.1 หมื่นคน
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับช่วงเวลาเดียวกัน ของปีที่ผ่านมา พบว่า อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น (จากร้อยละ 0.8 เป็นร้อยละ 1.0) หากเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาอัตราการว่างงาน ลดลง (จากร้อยละ 1.1 เป็นร้อยละ 1.0)
เมื่อพิจารณาอัตราการว่างงานตามเพศในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 พบว่า เพศชายมีอัตราว่างงาน ร้อยละ 1.1 และเพศหญิงมีอัตราว่างงาน ร้อยละ 0.8
หากเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 จะเห็นว่าอัตราการว่างงาน เพศชายไม่เปลี่ยนแปลงคือ (ร้อยละ 1.1) แต่เพศหญิงอัตราการว่างงานลดลง (จากร้อยละ 1.2 เป็นร้อยละ 0.8)
การว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุ 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 5.3 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้ อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.5 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 กลุ่มวัยเยาวชน มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.5 เป็นร้อยละ 5.3
ระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงาน เดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษา ในระดับอุดมศึกษา 1.20 แสนคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 1.5) รองลงมาเป็นระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย 9.3 หมื่นคน (ร้อยละ 1.5) ระดับประถมศึกษา 7.3 หมื่นคน (ร้อยละ 0.9) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 6.2 หมื่นคน (ร้อยละ 1.0) และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 1.6 หมื่นคน (ร้อยละ 0.2) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 พบว่า ผู้ว่างงานระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเพิ่มขึ้น 3.6 หมื่นคน ระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น 2.1 หมื่นคน ระดับประถมศึกษาเพิ่มขึ้น 1.9 หมื่นคน ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นลดลง 1.3 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษาลดลง 2.0 พันคน
ประสบการณ์การทำงานของผู้ว่างงานพบว่า เป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 2.14 แสนคน และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 1.50 แสนคน ซึ่งในกลุ่มนี้ลดลง 4.5 หมื่นคน เมื่อเปรียบเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 2.14 แสนคน สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา 8.9 หมื่นคน ในจำนวนนี้เป็น ผู้สำเร็จสายวิชาการ 6.3 หมื่นคน สายอาชีวศึกษา 2.1 หมื่นคน และสายวิชาการศึกษา 5.0 พันคน รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 5.7 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 3.8 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 2.7 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษา และต่ำกว่าประถมศึกษา 3.0 พันคน
จำนวน 1.50 แสนคน สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 3.6 หมื่นคน ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3.5 หมื่นคน ระดับอุดมศึกษา 3.1 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษา และต่ำกว่าประถมศึกษา 1.3 หมื่นคน
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 จะเห็นได้ว่า จำนวนผู้ว่างงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 6.1 หมื่นคน (จาก 3.03 แสนคน เป็น 3.64 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ภาคใต้มี จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 6.0 หมื่นคน ภาคเหนือมีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 7.0 พันคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 3.0 พันคน และกรุงเทพมหานครจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 2.0 พันคน ส่วนภาคกลางมีจำนวนผู้ว่างงานลดลง 1.1 หมื่นคน
ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ