สรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือน กันยายน พ.ศ. 2562
โครงสร้างกำลังแรงงาน
สำรวจแรงงานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เริ่มตั้งแต่ปี 2506 โดยในช่วงแรก สำรวจเพียงปีละ 2 รอบ รอบแรกเป็นการสำรวจนอกฤดูเกษตร รอบที่ 2 เป็นฤดูเกษตร ต่อมาในปี 2527 - 2540 สำรวจปีละ 3 รอบ โดยเพิ่มสำรวจช่วงเดือนพฤษภาคมเพื่อดูแรงงานที่จบการศึกษาใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงาน และในปี 2541 ได้เพิ่ม เก็บเกี่ยวผลผลิตการเกษตร ทำให้การสำรวจภาวะการทำงานของประชากรครบทั้ง 4 ไตรมาสของปี ในปี 2544 สำนักงาน-สถิติแห่งชาติ ได้ปรับปรุงการสำรวจเป็นรายเดือนทั้งนี้เพื่อให้สามารถติดตาม ภาวะการมีงานทำของประชากรได้อย่างต่อเนี่องและเสนอผลการสำรวจเป็นรายเดือนในระดับประเทศและภาค
ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือน กันยายน พ.ศ. 2562 พบว่าจำนวนผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 56.64 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อม จะทำงาน 37.72 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วยผู้มีงานทำ37.21 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.9 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 1.2 แสนคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงานหรือผู้ที่ไม่พร้อมทำงาน 18.92 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน คนชรา เป็นต้น
สำหรับจำนวนผู้มีงานทำ 37.21 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 13.02 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 24.19 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 พบว่า ผู้ทำงานลดลง 7.4 แสนคน (จาก 37.95 ล้านคน เป็น 37.21 ล้านคน) โดยผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรมมีจำนวนลดลง 8.6 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นการลดลง ในสาขาการผลิต 4.7 แสนคน สาขาการก่อสร้าง 1.3 แสนคน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร และสาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศ และการประกันสังคมภาคบังคับ ลดลงเท่ากันคือ 1.1 แสนคน สาขาการศึกษา 8.0 หมื่นคน สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ 4.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมด้านสุขภาพ และงานสังคมสงเคราะห์ 3.0 หมื่นคน สาขาการขนส่ง และสถานที่เก็บสินค้า 2.0 หมื่นคน สาขากิจกรรมทางการเงิน และการประกันภัย 1.0 หมื่นคน ส่วนสาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์และสาขากิจกรรมบริการด้านอื่นๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง สำหรับผู้มีงานทำในภาคเกษตรกรรมนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้น 1.2 แสนคน โดยส่วนใหญเพิ่มขึ้น ในสาขาการปลูกข้าวเหนียว การปลูกข้าวจ้าว และการปลูกมันสำปะหลัง
เมื่อพิจารณาถึงชั่วโมงทำงาน ของผู้มีงานทำต่อ สัปดาห์ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 พบว่า ส่วนใหญ่ ทำงานตั้งแต่ 35 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์ ซึ่งถือได้ว่าเป็น ผู้ทำงานเต็มที่ในเรื่องชั่วโมงทำงานมีจำนวน 31.51 ล้านคน หรือร้อยละ 84.7 ของผู้มีงานทำทั้งหมด และผู้ที่ทำงาน1 - 34 ชั่วโมง มีจำนวน 5.51 ล้านคน หรือร้อยละ 14.8 สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำงานในสัปดาห์สำรวจ (ระหว่าง 7 วัน ก่อนวันสัมภาษณ์) แต่เป็นผู้มีงานประจำซึ่งถือว่าสัปดาห์ การสำรวจไม่มีชั่วโมงการทำงาน (0 ชั่วโมง) มีจำนวน 1.9 แสนคน หรือ ร้อยละ 0.5
การทำงานต่ำกว่าระดับ หากพิจารณาถึงจำนวน ผู้ที่ทำงานแต่ยังทำงานได้ไม่เต็มเวลาซึ่งคนกลุ่มนี้ เป็นผู้ทำงานแต่ยังมีเวลาและต้องการที่จะทำงานเพิ่ม หรือเรียกคนทำงานในกลุ่มนี้ว่า ผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ (Underemployment workers) จากผลการสำรวจพบว่า มีจำนวน 1.65 แสนคน หรือร้อยละ 0.4 ของจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด เมื่อพิจารณาตามเพศ พบว่า โดยปกติแล้วเพศชาย มากกว่าเพศหญิง สำหรับเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 เพศชายมีจำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ 9.9 หมื่นคน (ร้อยละ0.5) และเพศหญิง 6.6 หมื่นคน (ร้อยละ 0.4)
จำนวนการว่างงาน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 มีทั้งสิ้น 3.85 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.0 เมื่อเปรียบเทียบ กับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 1.2 หมื่นคน และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 จำนวน ผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 3.0 พันคน
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับช่วงเวลาเดียวกัน ของปีที่ผ่านมา พบว่า อัตราการว่างงานคงที่คือ ร้อยละ 1.0 หากเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาอัตราการว่างงานคงที่ คือร้อยละ 1.0
เมื่อพิจารณาอัตราการว่างงานตามเพศในเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 พบว่า เพศชายมีอัตรา การว่างงานสูงกว่าเพศหญิง โดยอัตราการว่างงานของเพศชาย ร้อยละ 1.1 และเพศหญิงร้อยละ 0.9
หากเปรียบเทียบอัตราการว่างงาน กับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่า อัตราการ ว่างงานเพศชาย เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.0 เป็นร้อยละ 1.1 แต่เพศหญิง อัตราการว่างงานคงที่คือ ร้อยละ 0.9
การว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชน หรือผู้มีอายุ 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 6.5 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้ อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.4 เมื่อเปรียบเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 กลุ่มวัยเยาวชนมีอัตราการ ว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.1 เป็นร้อยละ 6.5
ระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงาน เดือนกันยายน พ.ศ. 2562 พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษา ในระดับอุดมศึกษา 1.73 แสนคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 2.2) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษา ตอนปลายหรือเทียบเท่า 8.4 หมื่นคน (ร้อยละ 1.3) ระดับมัธยม-ศึกษาตอนต้น 7.7 หมื่นคน (ร้อยละ 1.2) ระดับประถมศึกษา 4.2 หมื่นคน (ร้อยละ 0.5) และไม่มีการศึกษา และต่ำกว่าประถมศึกษา 9.0 พันคน (ร้อยละ 0.1) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 พบว่า ผู้ว่างงาน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นลดลง 2.0 หมื่นคน ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษาลดลง 3.0 พันคน ในขณะที่ระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น 2.8 หมื่นคน ระดับประถมศึกษาเพิ่มขึ้น 4.0 พันคน และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าเพิ่มขึ้น 3.0 พันคน
ประสบการณ์การทำงานของผู้ว่างงานพบว่า เป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 2.12 แสนคน หรือร้อยละ 55.1 ของผู้ว่างงานทั้งหมด และผู้ว่างงาน ที่เคยทำงานมาก่อน 1.73 แสนคน หรือร้อยละ 44.9 โดยเป็นผู้ว่างงานจากนอกภาคเกษตรกรรม 1.66 แสนคน ซึ่งประกอบด้วยภาคการบริการและการค้า 0.71 แสนคน และภาคการผลิต 0.95 แสนคน ส่วนผู้ว่างงานจาก ภาคเกษตรกรรมมีจำนวน 0.07 แสนคน
ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน จำนวน 2.12 แสนคน สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา 1.43 แสนคน ในจำนวนนี้เป็น ผู้สำเร็จสายวิชาการ 1.16 แสนคน สายอาชีวศึกษา 1.7 หมื่นคน และสายวิชาการศึกษา 1.0 หมื่นคน รองลงมาเป็นระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า 3.8 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น 2.5 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 5.0 พันคน และไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 1.0 พันคน
ผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน จำนวน 1.73 แสนคน สำเร็จการศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 5.2 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า 4.6 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 3.7 หมื่นคน ระดับอุดมศึกษา 3.0 หมื่นคน และไม่มีการศึกษา และต่ำกว่าประถมศึกษา 8.0 พันคน
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 จะเห็นได้ว่า จำนวนผู้ว่างงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 1.2 หมื่นคน (จาก 3.73 แสนคน เป็น 3.85 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ภาคใต้เพิ่มขึ้น 2.7 หมื่นคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้น 2.2 หมื่นคน ภาคเหนือเพิ่มขึ้น 1.0 พันคน ในขณะที่ภาคกลางลดลง 2.4 หมื่นคน และกรุงเทพมหานครลดลง 1.4 หมื่นคน
ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ