ส นักงานสถิติแห่งชาติ ด เนินการส รวจภาวะการท งานของประชากร หรือส รวจแรงงาน
อย่างต่อเนื่องเป็นประจ ทุกปีเริ่มตั้งแต่ปี2506 โดยในช่วงแรกส รวจเพียงปีละ 2 รอบ รอบแรกเป็นการ
ส รวจนอกฤดูเกษตร และรอบที่ 2 เป็นฤดูเกษตร ต่อมาในปี2527 - 2540 ส รวจปีละ 3 รอบ โดยเพิ่ม
การส รวจช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อให้มีข้อมูลแรงงานที่จบการศึกษาใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงาน และ
ในปี 2541 ได้เพิ่มการส รวจขึ้นอีก 1 รอบ คือเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต
การเกษตร ท ให้การส รวจภาวะการท งานของประชากรมีข้อมูลครบทั้ง 4 ไตรมาส ในปี 2544
ส นักงานสถิติแห่งชาติได้ปรับปรุงการส รวจเป็นรายเดือน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถติดตามภาวะการมีงานท
ของประชากรได้อย่างต่อเนื่องทุกเดือนโดยน เสนอผลการส รวจในระดับภาค และประเทศ
ผลการส รวจภาวะการท งานของประชากรเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 พบว่าผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
จ นวน 58.78 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในก ลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อมจะท งาน 40.07 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วย
ผู้มีงานท 39.34 ล้านคน ผู้ว่างงาน 0.49 ล้านคน และผู้ที่รอฤดูกาล 0.24 ล้านคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกก ลัง
แรงงานหรือผู้ที่ไม่พร้อมท งาน 18.71 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน คนชรา เป็นต
จ นวนผู้มีงานท จ แนกตามชั่วโมงท งานต่อสัปดาห์และเพศ
เมื่อพิจารณาถึงชั่วโมงท งานของผู้มีงานท ต่อสัปดาห์ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 พบว่า
ผู้ท งานตั้งแต่ 35-49 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีจ นวน 20.32 ล้านคน หรือร้อยละ 51.7 ของผู้มีงานท ทั้งหมด และ
ผู้ท งานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์มีจ นวน 14.28 ล้านคน (ร้อยละ 36.3) ส หรับผู้ที่ท งาน 50 ชั่วโมงขึ้นไป
ต่อสัปดาห์มีจ นวน 4.74 ล้านคน (ร้อยละ 12.0)
จ นวนผทู้ งานต กว่าระดับ (ด้านเวลา) จ แนกตามเพศ
การท งานต กว่าระดับด้านเวลา หากพิ จารณาถึงจ นวนผู้มีงานท แต่ยังท งานได้ไม่เต็มเวลา
ซึ่งหมายถึงผู้ท งานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และต้องการท งานเพิ่มหรือเรียกว่าผู้ท งานต กว่าระดับ
ด้านเวลา (Time-Related Underemployment workers) จากผลการส รวจพบว่า มีผู้ท งานต กว่าระดับ
ด้านเวลาจ นวน 2.73 แสนคน หรือร้อยละ 0.7 ของจ นวนผู้ท งานทั้งหมด เมื่อพิจารณาตามเพศพบว่า
มีเพศชายมากกว่าเพศหญิง (จ นวน 1.64 แสนคน และ 1.09 แสนคน ตามล ดับ)
การว่างงาน เปรียบเทียบจ นวนและอัตราการว่างงาน จ แนกตามภาค
ในเดือนมกราคม 2566 พบว่า มีจ นวนผู้ว่างงาน 4.90 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน
ร้อยละ 1.2 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 จะเห็นได้ว่าจ นวนผู้ว่างงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้น
1.05 แสนคน (จาก 3.85 แสนคน เป็น 4.90 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ทุกภาคมีจ นวน
ผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น
เปรียบเทียบจ นวนและอัตราการว่างงาน จ แนกตามเพศและกลุ่มอาย
จ นวนผู้ว่างงาน ในเดือนมกราคม 2566 มีทั้งสิ้น 4.90 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน
ร้อยละ 1.2 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม 2565 จ นวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 1.05 แสนคน และอัตรา
การว่างงานเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 1.0 เป็น ร้อยละ 1.2
อัตราการว่างงานตามเพศ พบว่า เพศหญิงมีอัตราการว่างงานเท่ากันกับเพศชาย (ร้อยละ 1.2)
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม 2565 พบว่า อัตราการว่างงานทั้งเพศชายและเพศหญิงเพิ่มขึ้น
อัตราการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า วัยเยาวชน (อายุ 15-24 ปี) มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจาก
เดือนธันวาคม 2565 คือร้อยละ 4.4 เป็นร้อยละ 5.8 และวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงาน
เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน คือร้อยละ 0.6 เป็นร้อยละ 0.8
เปรียบเทียบจ นวนผู้ว่างงาน จ แนกตามระดบั การศกึ ษาที่ส เร็จ
ระดับการศึกษาที่ส เร็จของผู้ว่างงาน
ในเดือนมกราคม 2566 พบว่าผู้ว่างงาน
ส เร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษามากที่สุด
1.95 แสนคน รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษา
ตอนต้น 0.82 แสนคน มัธยมศึกษาตอนปลาย
0.77 แสนคน และระดับปวช./ปวส. 0.56 แสนคน
ตามล ดับ
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม 2565
พบว่าผู้ว่างงานส เร็จการศึกษาในระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย ลดลงจ นวน 0.17
แสนคน และระดับ ปวช./ปวส. ไม่เปลี่ยนแปลง
ขณะที่ผู้ว่างงานที่ส เร็จการศึกษาใน
ระดับต่าง ๆ มีจ นวนเพิ่มขึ้น โดยผู้ที่ส เร็จ
การศึกษาระดับอุดมศึกษามีจ นวนเพิ่มขึ้น
มากที่สุด
ประสบการณ์การท งานของผู้ว่างงาน พบว่า เป็นผู้ว่างงานที่เคยท งานมาก่อน 2.59 แสนคน
(ร้อยละ 52.9) โดยเป็นผู้ว่างงานจากนอกภาคเกษตรมากกว่าในภาคเกษตร (จ นวน 2.31 แสนคน และ
0.28 แสนคน) ส่วนผู้ว่างงานที่ไม่เคยท งานมาก่อน 2.31 แสนคน (ร้อยละ 47.1)
ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ