สรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ข่าวผลสำรวจ Thursday June 22, 2023 13:22 —สำนักงานสถิติแห่งชาติ

ส นักงานสถิติแห่งชาติ ด เนินการส รวจภาวะการท งานของประชากร หรือส รวจแรงงาน

อย่างต่อเนื่องเป็นประจ ทุกปีเริ่มตั้งแต่ปี2506 โดยในช่วงแรกส รวจเพียงปีละ 2 รอบ รอบแรกเป็นการ

ส รวจนอกฤดูเกษตร และรอบที่ 2 เป็นฤดูเกษตร ต่อมาในปี2527 - 2540 ส รวจปีละ 3 รอบ โดยเพิ่ม

การส รวจช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อให้มีข้อมูลแรงงานที่จบการศึกษาใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงาน และ

ในปี 2541 ได้เพิ่มการส รวจขึ้นอีก 1 รอบ คือเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต

การเกษตร ท ให้การส รวจภาวะการท งานของประชากรมีข้อมูลครบทั้ง 4 ไตรมาส ในปี 2544

ส นักงานสถิติแห่งชาติได้ปรับปรุงการส รวจเป็นรายเดือน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถติดตามภาวะการมีงานท

ของประชากรได้อย่างต่อเนื่องทุกเดือนโดยน เสนอผลการส รวจในระดับภาค และประเทศ

ผลการส รวจภาวะการท งานของประชากรเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 พบว่าผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป

จ นวน 58.89 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในก ลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อมจะท งาน 40.36 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วย

ผู้มีงานท 39.61 ล้านคน ผู้ว่างงาน 0.52 ล้านคน และผู้ที่รอฤดูกาล 0.23 ล้านคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกก ลัง

แรงงานหรือผู้ที่ไม่พร้อมท งาน 18.53 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน คนชรา เป็นต้น

เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 พบว่า ผู้มีงานท เพิ่มขึ้น 0.33 ล้านคน (จาก 39.28

ล้านคน เป็น 39.61 ล้านคน)

การมีงานท

ส หรับเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 ผู้มีงานท

ในภาคเกษตรกรรมมีจ นวน 11.35 ล้านคน (เพิ่มขึ้นจาก

เดือนเมษายน จ นวน 0.59 ล้านคน) และผู้มีงานท นอก

ภาคเกษตรกรรมมีจ นวน 28.26 ล้านคน (ลดลงจาก

เดือนเมษายน จ นวน 0.26 ล้านคน)

โดยผู้ท งานนอกภาคเกษตรกรรม ลดลง 3 ล ดับแรก

ในสาขาการขายส่ง และการขายปลีกฯ (ลดลง 5.7 แสนคน)

ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร (ลดลง 4.0 แสนคน) และสาขา

การก่อสร้าง (ลดลง 2.8 แสนคน)

ส่วน 3 ล ดับแรกที่มีผู้ท งานเพิ่มขึ้น คือสาขา

การผลิต (เพิ่มขึ้น 4.7 แสนคน) การบริหารราชการฯ

(เพิ่มขึ้น 2.2 แสนคน) และกิจกรรมด้านสุขภาพและงาน

สังคมสงเคราะห์(เพิ่มขึ้น 1.1 แสนคน)

จ นวนผู้มีงานท จ แนกตามชั่วโมงท งานต่อสัปดาห์และเพศ

เมื่อพิจารณาถึงชั่วโมงท งานของผู้มีงานท ต่อสัปดาห์ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 พบว่า

ผู้ท งานตั้งแต่ 35-49 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีจ นวน 25.86 ล้านคน หรือร้อยละ 65.3 ของผู้มีงานท ทั้งหมด และ

ผู้ท งานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์มีจ นวน 6.93 ล้านคน (ร้อยละ 17.5) ส หรับผู้ที่ท งาน 50 ชั่วโมงขึ้นไป

ต่อสัปดาห์มีจ นวน 6.82 ล้านคน (ร้อยละ 17.2)

นวนผทู้ งานต กว่าระดับ (ด้านเวลา) จ แนกตามเพศ

การท งานต กว่าระดับด้านเวลา หากพิ จารณาถึงจ นวนผู้มีงานท แต่ยังท งานได้ไม่เต็มเวลา

ซึ่งหมายถึงผู้ท งานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และต้องการท งานเพิ่มหรือเรียกว่าผู้ท งานต กว่าระดับ

ด้านเวลา (Time-Related Underemployment workers) จากผลการส รวจพบว่า มีผู้ท งานต กว่าระดับ

ด้านเวลาจ นวน 1.98 แสนคน หรือร้อยละ 0.5 ของจ นวนผู้ท งานทั้งหมด เมื่อพิจารณาตามเพศพบว่า

มีเพศชายมากกว่าเพศหญิง (จ นวน 1.09 แสนคน และ 0.89 แสนคน ตามล ดับ)

เปรียบเทียบจ นวนและอัตราการว่างงาน จ แนกตามภาคการว่างงานในเดือนพฤษภาคม 2566 พบว่า มีจ นวนผู้ว่างงาน 5.15 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน

ร้อยละ 1.3 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 จะเห็นได้ว่าจ นวนผู้ว่างงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้น

1.02 แสนคน (จาก 4.13 แสนคน เป็น 5.15 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า เกือบทุกภาคมีจ นวน

ผู้ว่างงานลดลง ยกเว้นภาคกลางและภาคใต้

จ นวนผู้ว่างงาน ในเดือนพฤษภาคม 2566 มีทั้งสิ้น 5.15 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน

ร้อยละ 1.3 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2566 จ นวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 1.02 แสนคน และอัตรา

การว่างงานเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 1.0 เป็นร้อยละ 1.3

อัตราการว่างงานตามเพศ พบว่า เพศหญิงมีอัตราการว่างงานมากกว่าเพศชาย (ร้อยละ 1.4 และ

ร้อยละ 1.1 ตามล ดับ) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2566 พบว่าอัตราการว่างงานทั้งเพศชายและเพศ

หญิงเพิ่มขึ้น

อัตราการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า วัยเยาวชน (อายุ 15-24 ปี) มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น

จากเดือนเมษายน 2566 คือร้อยละ 7.1 เป็นร้อยละ 8.2 และวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงาน

เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน คือร้อยละ 0.4 เป็นร้อยละ 0.6เปรียบเทยี บจ นวนผวู้ งงาน จ แนกตามระดบั การศกึ ษาที่ส เร็จ

ระดับการศึกษาที่ส เร็จของผู้ว่างงาน ใน

เดือนพฤษภาคม 2566 พบว่าผู้ว่างงานส เร็จ

การศึกษาในระดับอุดมศึกษามากที่สุด 2.09 แสนคน

รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 0.96

แสนคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 0.87 แสนคน

และระดับปวช./ปวส. 0.75 แสนคน ตามล ดับ

เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2566

พบว่าผู้ว่างงานที่ไม่มีการศึกษาและส เร็จต กว่า

ระดับประถมศึกษา และระดับปวช./ปวส. มีจ นวน

ลดลง

ขณะที่ผู้ว่างงานที่ส เร็จการศึกษาใน

ระดับต่าง ๆ มีจ นวนเพิ่มขึ้น โดยผู้ที่ส เร็จ

การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีจ นวน

เพิ่มขึ้นมากที่สุด

ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ


แท็ก ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ