บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
ภาวะการทำงานของประชากรไตรมาสที่ 3 พ.ศ. 2565
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้สำรวจภาวะการทำงาน
ของประชากรไตรมาสที่ 3 พ.ศ. 2565 เพื่อให้ทราบถึง
ภาวะการทำงานและการว่างงานของประชากร ผลการสำรวจ
พบว่า มีจำนวนผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ทั้งสิ้น
58.66 ล้านคน เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 40.09 ล้านคน
(ประกอบด้วยผู้มีงานทำ 39.57 ล้านคน ผู้ว่างงาน 0.49 ล้านคน
และผู้รอฤดูกาล 0.03 ล้านคน) และผู้อยู่นอกกำลังแรงงาน
18.57 ล้านคน (ประกอบด้วยผู้ทำงานบ้าน 5.11 ล้านคน
ผู้เรียนหนังสือ 4.56 ล้านคน และอื่นๆ 8.90 ล้านคน เช่น
ยังเด็ก ชรา ป่วย/พิการจนทำงานไม่ได้ พักผ่อน เกษียณ
การทำงาน เป็นต้น)
เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3ของปี 2564 พบว่า
จำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น 0.82 ล้านคน (จาก 38.75 ล้านคน
เป็น 39.57 ล้านคน) โดยภาคเกษตรกรรมมีจำนวนลดลง
0.31 ล้านคน (จาก 12.71 ล้านคน เป็น 12.40 ล้านคน)
ส่วนนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 1.11 ล้านคน (จาก 26.05
ล้านคน เป็น 27.16 ล้านคน) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในการ
ขายส่ง/ขายปลีก สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร สาขา
การผลิต สาขาการบริหารราชการและการป้องกันประเทศ
และการก่อสร้าง ส่วนสาขาที่ลดลง ได้แก่ สาขาการขนส่ง
และสถานที่เก็บสินค้า
เมื่อเปรียบเทียบจำนวนผู้มีงานทำตามระดับการศึกษา
ที่สำเร็จกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 พบว่า ระดับปริญญาตรี
เพิ่มขึ้น 6.8 แสนคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเพิ่มขึ้น
6.3 แสนคน และระดับอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้น 2.1 แสนคน และ
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเพิ่มขึ้น 0.9 แสนคน ผู้มีงานทำที่
ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษาลดลง 5.5 แสนคน
ระดับประถมศึกษาลดลง 2.9 แสนคน และระดับสูงกว่า
ปริญญาตรีลดลง 0.1 แสนคน
หากพิจารณาถึงการทำงานต่ำกว่าระดับด้านชั่วโมง
การทำงานหรือการทำงานไม่เต็มเวลา (หมายถึง ผู้ทำงาน
น้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ซึ่งมีเวลาเหลือพอ
และต้องการทำงานเพิ่ม) ผู้ที่ทำงานในกลุ่มนี้แม้จะเป็น
ผู้ทำงานแต่เป็นการทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจาก
พวกเขาเหล่านี้ยังมีเวลามากพอที่จะสามารถทำงาน
เพิ่มได้อีก โดยในไตรมาสที่ 3 พ.ศ. 2565 มีจำนวน
2.34 แสนคน หรือคิดเป็น ร้อยละ 0.6 และเมื่อ
เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 พบว่า
จำนวนผู้ทำงานต่ำกว่าระดับ ด้านชั่วโมงการทำงานลดลง
ร้อยละ 69.7
สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในไตรมาสที่ 3 พ.ศ. 2565
มีจำนวนทั้งสิ้น 4.91 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน
ร้อยละ 1.2 ของกำลังแรงงานรวม เมื่อเปรียบเทียบกับ
ช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ผู้ว่างงานลดลง 4.2 แสนคน
(จาก 9.11 แสนคน เป็น 4.91 แสนคน)
ว่างงานในกลุ่มเยาวชน (อายุ 15-24 ปี) มีจำนวน
2.52 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 6.5
ในขณะที่ผู้ว่างงานในกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป)
มีจำนวน 2.39 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน
ร้อยละ 0.7 และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน
ของปี 2564 พบว่า อัตราการว่างงานในกลุ่มเยาวชน
ลดลง (จากร้อยละ 8.6 เป็น ร้อยละ 6.5) ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่
ลดลง (จากร้อยละ 1.6 เป็น ร้อยละ 0.7)
เมื่อพิจารณาผู้ว่างงานตามประสบการณ์การทำงาน
ในไตรมาสที่ 3 พ.ศ. 2565 จากจำนวนผู้ว่างงาน
4.91 แสนคน พบว่า เป็นผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อน
2.56 แสนคน โดยในกลุ่มผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อน เป็นผู้ที่
อยู่ในวัยเยาวชน 1.92 แสนคน และวัยผู้ใหญ่ 0.64 แสนคน
ส่วนผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนมีจำนวน 2.35 แสนคน
เป็นผู้ว่างงานจากการทำงานครั้งสุดท้ายในภาคการบริการ
และการค้า 1.40 แสนคน ภาคการผลิต 0.84 แสนคน และ
ภาคเกษตรกรรม 0.11 แสนคน
เมื่อพิจารณาผู้ว่างงานตามประสบการณ์การทำงาน
ในไตรมาสที่ 3 พ.ศ. 2565 จากจำนวนผู้ว่างงาน
4.91 แสนคน พบว่า เป็นผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อน
2.56 แสนคน โดยในกลุ่มผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อน เป็นผู้ที่
อยู่ในวัยเยาวชน 1.92 แสนคน และวัยผู้ใหญ่ 0.64 แสนคน
ส่วนผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนมีจำนวน 2.35 แสนคน
เป็นผู้ว่างงานจากการทำงานครั้งสุดท้ายในภาคการบริการ
และการค้า 1.40 แสนคน ภาคการผลิต 0.84 แสนคน และ
ภาคเกษตรกรรม 0.11 แสนคน
สำหรับการว่างงาน ตามระดับการศึกษาที่สำเร็จ
ในไตรมาสที่ 3 พ.ศ. 2565 พบว่า ผู้ที่สำเร็จการศึกษา
ในระดับปริญญาตรีว่างงานมากที่สุด 1.80 แสนคน
รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 0.93 แสนคน
ระดับอาชีวศึกษา 0.72 แสนคน ระดับมัธยมศึกษา
ตอนต้น 0.70 แสนคน ระดับประถมศึกษา 0.53 แสนคน
ผู้ที่ไม่มีการศึกษาและการศึกษาต่ำกว่าระดับประถมศึกษา
0.16 แสนคน และสูงกว่าปริญญาตรี 0.05 แสนคน
ตามลำดับ
อเปรียบเทียบจำนวนผู้ว่างงานและอัตราการ
ว่างงานเป็นรายภาค กับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564
พบว่า ทุกภาคมีจำนวนและอัตราการว่างงานลดลง
โดยภาพรวมจำนวนผู้ว่างงาน ลดลง 4.2 แสนคน
กรุงเทพมหานครลดลง 1.43 แสนคน ภาคกลางลดลง 0.9
แสนคน ภาคใต้ลดลง 0.8 แสนคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลดลง 0.69 แสนคน และภาคเหนือลดลง 0.4 แสนคน
สำหรับอัตราการว่างงาน พบว่า ทั่วประเทศอัตรา
การว่างงานลดลง ร้อยละ 1.1 เมื่อพิจารณาตามภาค พบว่า
กรุงเทพมหานครลดลง ร้อยละ 2.6 ภาคใต้ลดลง ร้อยละ
1.5 ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลง ร้อยละ
0.7 และภาคเหนือ ร้อยละ 0.6
ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ