สำมะโนประชากรและเคหะครั้งสำคัญของประเทศไทยซึ่งตรงกับโอกาสครบรอบ 100 ปี สำมะโนประชากรไทยในปี 2553 มีกำหนดช่วงเวลาจัดทำระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2553 ใกล้เข้ามาทุกขณะ การจัดทำ "ข้อมูลเพื่อแผ่นดิน" ครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจาก การนับคนที่อยู่อาศัยจริงในพื้นที่ต่างๆ โดยไม่สนใจว่าจะมีชื่อในทะเบียนบ้านหรือไม่ แล้วก็แจกแจงรายละเอียดสำคัญๆ ต่างๆ จึงทำให้ฐานข้อมูลชุดนี้มีรายละเอียดที่เป็นประโยชน์อย่างมากมายสำหรับภาครัฐและธุรกิจเอกชนทั้งทางตรงและทางอ้อม นับเป็นโอกาสดีที่ทุกคนในประเทศไทยจะได้มีส่วนร่วมฉลองวาระ 100 ปี แห่งการนับคนในประเทศไทยประวัติศาสตร์นี้
"ข้อมูลเพื่อแผ่นดิน" นั้นสำคัญไฉน มีประโยชน์อย่างไรเราลองมาดูกันในเรื่องง่ายๆ เช่น เรื่อง "อายุ" เป็นตัวอย่าง
ตั้งแต่เกิดจนตายคนเราต้องผ่านเข้าสู่วัยต่างๆ ตั้งแต่วัยทารกจนถึงวัยชรา อายุหรือวัยของแต่ละคนจะบอกถึงพัฒนาการของเขาได้ว่าเป็นไปตามปกติหรือไม่ เช่น อายุเท่านี้ ฟันน้ำนมต้องขึ้นเท่านี้ ต้องเดินได้เอง ถึงวัยที่ต้องเข้าโรงเรียนแล้ว โตขึ้นถึงกำหนดเกณฑ์ทหาร อายุเท่านี้ถึงวัยมีคู่ครอง ล่วงถึงบั้นปลายก็เข้าวัยเกษียณ ฯลฯ จะเห็นได้ว่าทุกช่วงวัยล้วนบอกด้วยอายุ และในแต่ละช่วงวัยยังมีสิ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย อายุของเรามีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและสังคมรอบตัว อย่างเช่น วัยทารกต้องกินนม ต้องใช้ผ้าอ้อมเสื้อผ้าเด็กอ่อน เปล รถเข็น ของเล่นจิปาถะ เมื่ออายุถึงกำหนดก็ต้องไปรับการฉีดวัคซีน การเลี้ยงดู ถ้าพ่อแม่ไปทำงานก็ต้องไปฝากเลี้ยงในสถานรับเลี้ยงเด็ก นอกจากนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่และเรื่องหมอเรื่องยา โรงงานและร้านค้าที่ผลิตและขายสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับเด็กวัยทารกอีกสารพัด เป็นต้น
แค่เฉพาะวัยทารกยังมีสิ่งที่เกี่ยวข้องมากมาย ดูทุกวัยก็จะยิ่งเห็นว่า มีเรื่องมาเกี่ยวข้องมากมายขึ้นไปอีกหลายเท่าและถ้าจำนวนคนแต่ละวัยจะต้องเปลี่ยนแปลงไปอีก เช่นวัยเด็กอายุ 0-14 ปี ที่สัดส่วนมีแนวโน้มลดลง จากร้อยละ 45.1 ในปี 2513 เหลือเพียงร้อยละ 24.4 ในปี 2543 และยังจะลด ลงไปอีกในปี 2553 ซึ่งต่างกับวัยทำงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากร้อยละ 49.9 ในปี 2513 เป็นร้อยละ 66.1 ในปี 2543 เช่นเดียวกับวัยสูงอายุก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 4.9 ในปี 2513 เป็นร้อยละ 9.5 ในปี 2543 และจะเพิ่มมากขึ้นไปอีกในอนาคต ลองคิดดูซิว่าสิ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องในแต่ละวัยจะเปลี่ยนแปลงอย่างมากตามไปด้วย เช่น การเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากร และความแตกต่างของอายุดังกล่าวจะเป็นตัวชี้ให้เห็นแนวโน้มความต้องการสินค้าและบริการที่ต้องเปลี่ยนไปตามกลุ่มวัยด้วย
เพียงตัวอย่างที่ยกมาย่อมทำให้เห็นได้ถึงความสำคัญของข้อมูลเรื่องอายุของประชากร ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญและจำเป็นต่อทั้งภาครัฐและเอกชน โดยภาครัฐสามารถนำไปใช้ในการกำหนดนโยบายและมาตรการเกี่ยวกับประชากรให้เหมาะสมและเพียงพอทั้งในด้านการให้บริการสุขอนามัยแม่และเด็ก การจัดการศึกษาการจัดสวัสดิการด้านสังคมสำหรับประชากรวัยต่างๆ นอกจากนี้ยังนำไปใช้เป็นฐานในการคำนวณการคาดประมาณประชากรในอนาคต เพื่อวางแผนและกำหนดนโยบายระยะยาว ส่วนภาคเอกชนสามารถใช้ในการวางแผนธุรกิจ กำหนดประเภทและการผลิตผลิตภัณฑ์จัดทำแผนการตลาด การประกันชีวิต เป็นต้น
แล้วยังมีข้อมูลรายละเอียดของประชากรอีกมากมายที่จะได้จากสำมะโนประชากรและเคหะ ในปี 2553 นี้ หรือข้อมูลเพื่อแผ่นดินเมื่อท่านเห็นความสำคัญและประโยชน์ดังเช่นตัวอย่างในเรื่องอายุแล้วคงจะทำให้ทุกท่านเต็มใจ และรอคอยที่จะให้ความร่วมมือกับ สำนักงานสถิติแห่งชาติในวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2553 ได้อย่างมั่นใจฉบับหน้าจะมาดูกันว่า ข้อมูลอายุของประชากรในแต่ละวัยที่ได้จากการทำสำมะโนประชากรครั้งก่อนๆ มีหน้าตาเป็นอย่างไร และข้อมูลเหล่านั้นจะสามารถบอกสิ่งที่น่าสนใจอะไรบ้างที่เรายังไม่รู้
สสช. --จบ--
--มติชน ฉบับวันที่ 8 ก.พ. 2553 (กรอบบ่าย)--