นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. วันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบการปรับเปลี่ยนโครงการและปรับลดวงเงินงบประมาณ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอขอลดวงเงินงบประมาณโครงการต้นกล้าอาชีพลงจาก 7,500 ล้านบาท เหลือ 2,965 ล้านบาท และขอปรับระยะเวลาแผนใช้จ่ายเงินของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง โดยให้หน่วยงานต่างๆ ส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณ เพื่อขอจัดสรรเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 23 ก.พ.นี้ ซึ่งสำนักงบประมาณจะต้องอนุมัติภายใน 15 วันทำการ และหลังจากนั้นหน่วยงานต้องลงนามให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 8 เม.ย.นี้
"มีการพูดกันในครม. ว่าอยากให้ยืดหยุ่นต่อไป ขณะที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน ครม. ว่าจากการดูตัวเลขการเบิกจ่ายโครงการต่างๆ ของหน่วยงานแล้ว อยากให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ เพราะเห็นว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้คึกคักมากกว่าปัจจุบัน" นายวัชระ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การปรับลดแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสำหรับการอบรมเดือนพ.ย. ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ลดลงเหลือประมาณ 225 ล้าบาท ค่าใช้จ่ายโครงการสร้างผู้สอบบัญชีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเหลือ 75 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายโครงการสำมะโนประชากรและเคหะเหลือ 436 ล้านบาท เงินอุดหนุนเพื่อการประกอบอาชีพแก่ผู้แจ้งความประสงค์กลับไปประกอบอาชีพในภูมิลำเนาสำหรับเดือนต.ค.-พ.ย.52 เหลือ 1,809 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการต้นกล้าอาชีพ สำหรับพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เหลือ 420 ล้านบาท
ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod