ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่เปิดเผยรายงานการวิจัยของนายมาร์ค ไวเซอร์ และคณะ ตีพิมพ์ในวารสารแอดดิคชันหรือการเสพติด เดือนพฤศจิกายน 2552 ที่พบว่าวัยรุ่นที่สูบบุหรี่มีระดับไอคิวต่ำกว่าวัยรุ่นที่ไม่สูบบุหรี่ การศึกษานี้ทำในประเทศอิสราเอล โดยบันทึกประวัติการสูบบุหรี่และวัดระดับไอคิวในวัยรุ่นที่เป็นทหารเกณฑ์อายุ 18 ปี จำนวน 20,221 คน พบว่าร้อยละ 28.5 ของทหารเกณฑ์เหล่านี้ สูบบุหรี่อย่างน้อยวันละหนึ่งมวน การทดสอบไอคิวพบว่า วัยรุ่นที่สูบบุหรี่ โดยเฉลี่ยจะมีไอคิวต่ำกว่า 0.41 ซึ่งเป็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในระดับสูงมาก การวิเคราะห์ยังพบว่าระดับที่ต่ำกว่าของไอคิวสัมพันธ์กับจำนวนมวนบุหรี่ที่สูบต่อวัน โดยคนที่ยิ่งสูบบุหรี่มากมวนต่อวันระดับไอคิวจะยิ่งต่ำทั้งนี้ผู้วิจัยยังทำการเปรียบเทียบไอคิวระหว่างพี่น้องพบว่าวัยรุ่นที่สูบบุหรี่จะมีไอคิวต่ำกว่าพี่หรือน้องที่ไม่สูบบุหรี่ผู้วิจัยเสนอว่าโครงการป้องกันการสูบบุหรี่ควรจะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่วัยรุ่นที่มีระดับไอคิวต่ำ
ศ.นพ.ประกิตเปิดเผยว่า เป็นปรากฎการณ์ทั่วโลกที่พบว่าคนที่ระดับการศึกษาน้อยกว่าจะมีอัตราการสูบบุหรี่สูงกว่าคนที่มีระดับการศึกษาที่สูงขึ้น การสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2550 พบว่าชายไทยที่จบการศึกษาระดับ ป.4 มีอัตรการสูบบุหรี่ 50% ขณะที่ชายไทยที่จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาขึ้นไปอัตราการสูบบุหรี่ 22% ในเพศหญิงที่จบชั้น ป.4 สูบ 2.27% และที่จบระดับอุดมศึกษาขึ้นไป 0.29% และในจำนวนผู้สูบบุหรี่ไทย 10.8 ล้านคน เป็นผู้ที่จบการศึกษาระดับ ป.4 หรือต่ำกว่า 7.1 ล้านคน จบระดับ ม.ต้น 1.7 ล้านคน ระดับ ม.ปลาย 1.2 ล้านคน และระดับอุดมศึกษา 6 แสนกว่าคน
--มติชน ฉบับวันที่ 11 ก.พ. 2553 (กรอบบ่าย)--