สาธารณสุข : สาธารณสุขเผยปีที่ผ่านมาคนไทยดื่มเหล้า 2,600 ล้านลิตร ส่งผลให้เป็นโรคตับแข็ง โดยในปี 2551 ป่วย 33,480 ราย เป็นชายถึง 4 เท่า และ เสียชีวิต 21,893 ราย หวั่นผลจากเอฟทีเออาเซียนจะทำให้คนดื่มเหล้ามากขึ้น
นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับผู้ว่าราชการ 14 จังหวัดภาคใต้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง เสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้สถานที่ราชการและสวนสาธารณะที่อยู่ในกำกับดูแลเป็นสถานที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ว่าจากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่าในปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจ คนไทยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2,699 ล้านลิตร หากคิดจากจำนวนผู้ที่ดื่มสุราอายุ 15 ปีขึ้นไป ตามผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดในปี 2550 ที่มีประมาณ 51 ล้านคน ดื่มเฉลี่ยคนละประมาณ 53 ลิตร
เมื่อแยกตามชนิดของเครื่องดื่ม พบว่าปริมาณการจำหน่ายเหล้าเพิ่มขึ้นจาก 887 ล้านลิตรในปี 2551 เป็น 943 ล้านลิตรในปี 2552 ขณะที่พบผู้ป่วยตับแข็ง ตับอ่อนอักเสบ ซึ่งเกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำ- ลายมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปี 2550 มี 27,409 ราย ปี 2551 เพิ่มเป็น 33,480 ราย เป็นชายมากกว่าหญิง 4 เท่าตัว เสียชีวิต 21,893 ราย ซึ่งข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า หากตับอ่อนถูกทำลายมากๆจะทำให้เป็นเบาหวานได้ด้วย เพราะตับอ่อนมีหน้าที่ผลิตสารควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ที่น่าห่วงคือ ผลของการเปิดการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 ทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตในภูมิภาคไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า อาจทำให้ประชาชนไทยดื่มเหล้ามากขึ้นได้ จึงต้องเร่งรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงอันตรายจากเหล้าถี่ขึ้น และเร่งขยายพื้นที่ปลอดการขายเหล้า การดื่มเหล้าให้มากขึ้น โดยจะขยายความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้ครบภายในปีนี้ และปี 2554 จะขยายให้ครอบ คลุมถึงระดับท้องถิ่นทั่วประเทศต่อไป
ด้านนายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตาม บันทึกความร่วมมือครั้งนี้ต้องจัดให้สถานที่ราชการและสวนสาธารณะที่อยู่ในกำกับดูแลปลอดการขาย การดื่ม และห้ามมีการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรณีที่ยังเลิกขายทั้งหมดไม่ได้ ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะในร้านค้าหรือสโมสรที่เปิดบริการเป็นประจำหรือถาวร และต้องได้รับอนุญาตจากสถานที่ราชการนั้นๆเท่านั้น ห้าม ขายให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และให้ขายได้เฉพาะเวลาที่กฎหมายกำหนดคือ 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็น ต้นไป