ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรประจำเดือนกรกฎาคม 2553 พบว่า จากจำนวนผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไปหรือผู้อยู่ในวัยทำงานทั้งสิ้น 53.50 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่ร้อมทำงาน 38.86 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วย ผู้มีงานทำ 38.41 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.45 แสนคน และผู้รอฤดูกาล 1.0 แสนคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงานมี 14.64 ล้านคน
จำนวนผู้มีงานทำ 38.41 ล้านคนนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้มีงานทำในช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 พบว่าจำนวนผู้มีงานทำลดลง 3.8 แสนคน (จาก 38.79 ล้านคน เป็น 38.41 ล้านคน) หรือลดลงร้อยละ 1.0 โดยผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมลดลง 1.38 ล้านคน (จาก 16.39 ล้านคน เป็น 15.01 ล้านคน) ทั้งนี้ เนื่องมาจากภาวะภัยแล้งทำให้แรงงานเคลื่อนย้ายไปทำงานนอกภาคเกษตรกรรม ทำให้จำนวนผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 1 ล้านคน (จาก 22.40 ล้านคน เป็น 23.40 ล้านคน) ซึ่งเป็นการเพิ่มในสาขาการบริหารราชการแผ่นดินฯ มากที่สุด 3.8 แสนคน รองลงมาสาขาการขายส่งและขายปลีกฯ 3.4 แสนคน สาขาการโรงแรมและภัตตาคาร 1.0 แสนคน สาขาการบริการชุมชนฯ 6 หมื่นคนสาขาการก่อสร้าง 5 หมื่นคน สาขาการผลิต 2 หมื่นคนส่วนสาขาที่ลดลงเป็นสาขาการขนส่งฯ 7 หมื่นคน ที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่น ๆ
หากพิจารณาถึงลักษณะของการทำงานไม่เต็มเวลาจากชั่วโมงการทำงาน พบว่า ในจำนวนผู้ทำงานทั้งหมด 38.41 ล้านคน เป็นผู้ที่ทำงานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 5.62 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 14.6 ของผู้มีงานทำ ซึ่งกลุ่มผู้ทำงานเหล่านี้ คือผู้ที่ทำ งานไม่เต็มเวลา หากนำมาเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 ผู้ทำงานไม่เต็มเวลามีจำนวนเพิ่มขึ้น 1 หมื่นคน (จาก 5.61 ล้านคน เป็น 5.62 ล้านคน) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 (จากร้อยละ 14.5 เป็นร้อยละ 14.6)
สำหรับจำนวนของผู้ว่างงานในเดือนกรกฎาคม 2553 มีจำนวนทั้งสิ้น 3.45 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 0.9 และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 มีจำนวนผู้ว่างงานลดลง 1.31 แสนคน หรืออัตราการว่างงานลดลงร้อยละ 0.3 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนที่ผ่านมา (มิถุนายน 2553) มีผู้ว่างงานลดลง 1.14 แสนคน (จาก 4.59 แสนคน เป็น 3.45 แสนคน)
เมื่อพิจารณาผู้ว่างงานจากประสบการณ์การทำงานพบว่า ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนมีจำนวน 1.68 แสนคนส่วนผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 1.77 แสนคน ซึ่งลดลง 1.2 แสนคน จากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 (จาก 2.97 แสนคนเป็น 1.77 แสนคน) โดยเป็นผู้ว่างงานมาจากภาคการบริการและการค้า 8.6 หมื่นคน ภาคการผลิต 7.4 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 1.7 หมื่นคน
หากพิจารณาการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่ากลุ่มเยาวชน หรือผู้มีอายุระหว่าง 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 3.2 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้อัตราการว่างงานจะสูงส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.5 เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 กลุ่มเยาวชนมีอัตราการว่างงานลดลงร้อยละ 1.4 (จากร้อยละ 4.6 เป็นร้อยละ 3.2) และกลุ่มวัยผู้ใหญ่มีอัตราการว่างงานลดลงร้อยละ 0.2 (จากร้อยละ 0.7 เป็นร้อยละ 0.5)
สำหรับระดับการศึกษาที่สำ เร็จของผู้ว่างงานในเดือนกรกฎาคม 2553 พบว่า ผู้ที่จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษามีจำนวนมากที่สุด 1.46 แสนคน (ร้อยละ 2.2) รองลงมาเป็นผู้ที่จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 7.4 หมื่นคน (ร้อยละ 1.2) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 6.0 หมื่นคน (ร้อยละ 1.1) ระดับประถมศึกษา 4.3 หมื่นคน (ร้อยละ 0.5) และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 2.2 หมื่นคน (ร้อยละ 0.2) เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 พบว่า จำนวนผู้ว่างงานลดลงทุกระดับการศึกษา โดยผู้ว่างงานในระดับประถมศึกษาลดลง 5.2 หมื่นคนรองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้นลดลง 3.7 หมื่นคนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2.0 หมื่นคน ระดับอุดมศึกษา 1.9 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 3 พันคน
หากพิจารณาอัตราการว่างงาน เป็นรายภาค พบว่ากรุงเทพมหานครและภาคกลางมีอัตราการว่างงานสูงที่สุดเท่ากันคือร้อยละ 1.1 รองลงมาเป็นภาคใต้ร้อยละ 0.9 ภาคเหนือร้อยละ 0.8 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 0.7 ถ้าเปรียบเทียบอัตราการว่างงานในช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 พบว่า ทุกภาคมีอัตราการว่างงานลดลง โดยภาคเหนือมีอัตราการว่างงานลดลงมากที่สุดร้อยละ 0.6 รองลงมาเป็นภาคใต้ลดลงร้อยละ 0.5 กรุงเทพมหานคร ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลงเท่ากันคือ ร้อยละ 0.2
ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ