สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เขต 7 ร่วมลงพื้นที่ติดตามความเสียหายของเกษตรกรจากอุทกภัยน้ำท่วมของจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบ ด้านกระทรวงเกษตรฯ ย้ำ ทุกหน่วยงานต้องต้องรายงานผลการดำเนินงานและความเสียหายให้กระทรวงฯ ทราบทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือน
นางจันทร์ธิดา มีเดช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 7 (สศข.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ติดตามและเร่งรัดการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่รับผิดชอบการตรวจราชจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี ชัยนาท อุทัยธานี และนครสวรรค์ ซึ่งนำโดยผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เขต 2 และ 18 (นายฉลอง เทพวิทักษกิจ) พร้อมคณะ ระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการติดตามความเสียหายของเกษตรกรจากอุทกภัยน้ำท่วมของจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งได้ชี้แจงขั้นตอนการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ พร้อมทั้งได้เร่งประสานส่วนราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด และสำนักงานประมงจังหวัดในการสำรวจความเสียหายของเกษตรกรเพื่อขอรับความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน โดยต้องรายงานผลการดำเนินงานให้กระทรวงเกษตรฯ ทราบทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือน รวมทั้งติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่สำคัญอีกหลายประเด็น เช่น การเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติระดับจังหวัด ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดต้องเข้าไปรับฟังคำชี้แจงแนวทางปฏิบัติงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
นางจันทร์ธิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ยังได้ติดตามความก้าวหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรในจังหวัด ถึงการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ การทำประชาคมและออกใบรับรอง และการทำสัญญา การรับเงินชดเชยจาก ธกส. เนื่องจากเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการประกันรายได้ที่ผ่านการประชาคมแล้ว หากประสบอุทกภัย นอกจากจะมีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลและเงินชดเชยจากความเสียหายทางการเกษตรแล้ว ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินส่วนต่างจากโครงการอีกด้วย หากราคาอ้างอิงต่ำกว่าราคาประกัน นอกจากนี้ ยังเน้นถึงทางการดำเนินงานโครงการบูรณาการพัฒนาการเกษตรภายใต้โครงการการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน และหากมีการปรับปรุงแผนบูรณาการพัฒนาการเกษตรเพื่อดำเนินการในพื้นที่ใหม่ตามที่กรมชลประทานเห็นเหมาะสมและมีการพัฒนาระบบการจัดการน้ำแล้ว ทุกหน่วยงานก็จะเร่งบูรณาการจัดทำแผนการดำเนินงานให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2553
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--