1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
นากุ้งได้รับความเสียหายจากอุทกภัย
นายเอกพจน์ ยอดนิยม ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานีเปิดเผยถึงผลกระทบจากอุทกภัยในภาคใต้ว่า จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้น มีบ่อกุ้งได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 1,000 บ่อ โดยเฉพาะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และสุราษฎร์ธานี ที่มีเกษตรกรเลี้ยงกุ้งเป็นจำนวนมาก สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีบ่อกุ้งเสียหายมากกว่า 100 บ่อ มูลค่าความเสียหายบ่อละประมาณ 1 ล้านบาท ถ้ารวมทั้งภาคใต้ความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ภาวะน้ำท่วมที่ทำให้นากุ้งเสียหาย ส่งผลให้ราคากุ้งลดลงในช่วงแรกประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งได้เร่งจับกุ้งขาย เพื่อหนีน้ำท่วม ทำให้ราคากุ้งลดลงประมาณ 10 บาทต่อกิโลกรัม แต่หลังจากนั้นราคากุ้งได้ขยับขึ้นมาอีก โดยกุ้งขนาด 50 ตัวต่อกิโลกรัม อยู่ที่ 150 บาท และมีแนวโน้มราคาขยับขึ้นอีก ในขณะเดียวกัน ประเทศผู้ส่งออกกุ้ง เช่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย ยังไม่สามารถผลิตกุ้งได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ประเทศผู้ซื้อจึงยังให้ความสนใจในคุณภาพกุ้งไทยอยู่ โดยเฉพาะในช่วงปลายปีนี้ มีความต้องการบริโภคกุ้งมากขึ้น ดังนั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงกระทบการส่งออกกุ้งอย่างแน่นอน ซึ่งจะเห็นผลชัดเจนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการนากุ้ง เนื่องจากกุ้งที่เลี้ยงไว้จะได้รับความเสียหายไม่ได้รับผลผลิตตามปกติแล้ว เครื่องมือในการเลี้ยงกุ้งยังได้รับความเสียหายด้วย เกษตรกรจำนวนมากถึงขั้นหมดตัว บางรายต้องแบกรับภาระหนี้ ต้องใช้ทุนในการฟื้นตัวจำนวนมาก แต่ยังไม่มีความช่วยเหลือใดๆ จากภาครัฐ ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี ยังได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบในระยะต่อไปว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจะรู้สึกตื่นตระหนกต่อภาวะน้ำท่วม ไม่กล้าลงกุ้งใหม่ จะส่งผลให้เกิดภาวะกุ้งขาดตลาดในที่สุด และอยากให้ผู้ประกอบการห้องเย็นเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกร โดยพยุงราคากุ้งไว้ก่อนในภาวะที่เกษตรกรเดือดร้อน
ในรอบสัปดาห์ผ่านมา(11 — 17 ต.ค. 2553) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 793.37 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 416.62 ตัน สัตว์น้ำจืด 376.75 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 2.29 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 3.88 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 93.14 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 6.58 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 54.98 ตันการตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 45.12 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 43.60 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.52 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ ไม่มีรายงานราคา
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 57.54 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 57.68 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.14 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 100.00 บาท ลดลงจาก กิโลกรัมละ 112.86 บาท ของสัปดาห์ก่อน 12.86 บาท
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 124.40 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 122.14 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 2.26 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 131.67 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 127.50 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 4.17 บาท
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 61.44 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 61.90 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.46 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 73.57 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 70.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 3.57 บาท
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 122.86 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 130.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 7.14 บาท
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.46 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 8.40 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.06 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 13 — 19 พ.ย. 2553) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 24.10 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 15 - 21 พ.ย. 2553--