เกษตรหวังใช้เวที FTA ไทย-อินเดีย ช่วยผลักดันสินค้าเข้าอินเดีย

ข่าวทั่วไป Thursday February 3, 2011 12:02 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เตรียมจัดทำ จัดทำบัญชีสินค้าเกษตรที่ศักยภาพและต้องการให้อินเดียเปิดตลาดเพิ่มเติมภายใต้กรอบเขตการค้าเสรีทวิภาคี ไทย-อินเดีย หลังจากเปิดตลาดไม่เต็มที่ภายใต้กรอบเชตการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากได้มีการเจรจาคณะเจรจาการค้าสินค้าภายใต้เขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย ซึ่งได้หยุดชะงักไประยะหนึ่งนับจากตกลงลดภาษีสินค้าเร่งลดภาษี (Early Harvest Scheme) จำนวน 82 รายการ ที่ได้ทยอยลดภาษีเหลือ 0% แล้วตั้งแต่ปี 2549 โดยเป็นกลุ่มสินค้าเพียง 11 รายการ เช่น ผลไม้ ข้าวสาลี ปลากระป๋อง ซึ่งส่งผลให้มูลค่าการค้าสินค้าเกษตรกลุ่มนี้ เพิ่มขึ้นจากเพียงประมาณ 10.6 ล้านบาทในปี 2547 (ก่อนเริ่มลดภาษี) เป็น 29.7 ล้านบาทในปี 2548 และทะยานสูงขึ้นเป็น 95.8 ล้านบาทเมื่อสิ้นปี 2553 โดยสินค้าที่มีมูลค่าการค้าสูงคือ องุ่นสด นอกจากนั้น ไทยและอินเดียยังมีความตกลงเขตการค้าเสรีภายใต้กรอบอาเซียน-อินเดียอีกกรอบหนึ่งด้วย โดยมีผลบังคับใช้เมื่อต้นปี 2553 ซึ่งในส่วนของการค้าสินค้าเกษตร (ไม่รวมยางพารา) ในช่วงปี 2550-2553 พบว่าไทยส่งออกเพิ่มขึ้นทุกปีจากเพียง 2,804 ล้านบาทในปี 2550 เป็น 8,681 ล้านบาทในปี 2553 โดยสินค้าสำคัญคือ น้ำตาล แต่การนำเข้ามีทิศทางไม่แน่นอน โดยนำเข้า 6,356 ล้านบาทในปี 2550 และเพิ่มเป็น 13,778 ล้านบาทในปี 2551 ก่อนจะทยอยลดลงเหลือ 9,586 ล้านบาทในปี 2553 ซึ่งขึ้นอยู่กับมูลค่าการนำเข้าอาหารสัตว์ในแต่ละปี

อย่างไรก็ตาม ภายใต้กรอบอาเซียน-อินเดียนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเปิดตลาดไม่เต็มที่ โดยยังมีกลุ่มสินค้าที่ไม่ลดภาษี กลุ่มสินค้าอ่อนไหว และกลุ่มสินค้าที่ลดภาษีช้ากว่าปกติ ประกอบกับการส่งออกของไทยยังจะต้องเผชิญการแข่งขันจากประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งก็ได้สิทธิพิเศษทางภาษีเช่นเดียวกับไทย ดังนั้น การผลักดันการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทยและอินเดีย จึงเป็นเวทีที่ไทยจะผลักดันการเปิดตลาดให้ดีกว่ากรอบอาเซียน-อินเดีย ซึ่งทาง สศก. อยู่ระหว่างจัดทำรายการสินค้าที่มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2550-2552 เพื่อจัดทำเป็นกลุ่มรายการที่จะร้องขอให้อินเดียเปิดตลาดเพิ่ม โดยจะต้องนำไปพิจารณาว่าเป็นกลุ่มที่อินเดียยังลดภาษีไม่เต็มที่หรือไม่ เพื่อจัดทำเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนต่อไป นายอภิชาต กล่าวทิ้งท้าย

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ