กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ร่วมโครงการ “สมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน” เพื่อรับฟังและตอบปัญหาทางด้านการเกษตรของภาคตะวันตก จัดโดยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในวันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554 ณ ห้องประชุม สวัสดี โรงแรมริเวอร์ จังหวัดนครปฐม
นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้ตอบประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเสนอแนวทางการแก้ไข โดยมี 2 ประเด็นปัญหาที่สำคัญ ดังนี้ ประเด็นที่ 1 เรื่องโครงการประกันรายได้ นโยบายนี้ให้ความเป็นธรรมต่อเกษตรกรในเรื่องการขายข้าวให้ได้ราคาเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นโดยนายกรัฐมนตรี เพื่อการกำหนดราคาประกันให้เท่ากับราคาต้นทุนบวกด้วยค่าใช้จ่ายทางการตลาด ค่าขนส่งต่างๆ และกำไรเข้าไปด้วย ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับก่อนที่ยังไม่มีโครงการนี้จะพบว่าพี่น้องเกษตรกรได้รับผลประโยชน์จากโครงการประกันรายได้มากกว่า ในส่วนของเงินชดเชยนั้นทางรัฐบาลก็ได้ส่งผ่านทาง ธกส. ถึงมือเกษตรกรโดยตรง อีกเรื่องที่น่าสนใจ คือ ปริมาณผลผลิตรับซื้อที่กำหนดไว้ไม่เกิน 25 ตันต่อครัวเรือนนั้น ถ้าเกษตรกรจะให้ทางรัฐบาลรับซื้อข้าวทั้งหมดนั้นจะต้องใช้งบประมาณมหาศาลทั้งที่งบประมาณมีอยู่อย่างจำกัด ในการรับซื้อปริมาณเท่านี้ก็เพียงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องเกษตรกร สำหรับการกำหนดปริมาณการรับซื้อ 25 ตันต่อครัวเรือนนั้น ที่ผ่านมาคณะกรรมการได้ทำการศึกษาจากการถือครองที่ดินของเกษตรกรเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องการเพิ่มปริมาณการรับซื้อนี้ก็จะนำเสนอต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป ส่วนประเด็นที่เกษตรกรต้องการขายข้าวให้ได้ตามราคาเกณฑ์อ้างอิงนั้น เกษตรกรก็ต้องให้ความชื้นข้าวเข้าเกณฑ์ตามที่รัฐบาลรองรับด้วยเช่นกัน คือ ความชื้นไม่เกิน 15 % ซึ่งถ้ามีความชื้นมากกว่านี้ก็จะถูกหักความชื้นด้วย
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 เรื่องราคาข้าวนาปี เกษตรกรต้องการทราบว่าราคาข้าวนาปีจะสูงขึ้นอีกหรือไม่ รองเลขาธิการ สศก. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาข้าวนาปี ณ ระดับความชื้น 15% ของเดือนกุมภาพันธ์นั้นสูงกว่าเดือนที่แล้ว ประมาณ 6 % เนื่องจากใกล้ปลายฤดูเก็บเกี่ยวประกอบกับมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามา อาจทำให้แนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น แต่ในเดือนเมษายนเกษตรกรในภาคใต้อาจได้รับผลกระทบราคาข้าวลดลง เนื่องจากภาคใต้ได้เริ่มดำเนินการขอใช้สิทธิ์โครงการประกันรายได้ข้าวนาปี ประกอบกับการขอใช้สิทธิ์ข้าวนาปรังในภาคกลาง เพราะมีปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เกษตรฯ ได้เสนอแนวทางให้พาณิชย์ ฯ เตรียมหามาตรการรองรับด้านการตลาดโดยการตั้งโต๊ะรับซื้อให้ทันเวลาและรองรับปริมาณผลผลิตให้ทันท่วงที
ทั้งนี้ โครงการ “สมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน” นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภา และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ในด้านการเกษตร สิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ของกลุ่มจังหวัดในด้านตะวันตก ประกอบด้วยผู้แทนกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ๗ จังหวัด ได้แก่ นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และชัยนาท จำนวน ๓๐๐ คน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขภายใต้กรอบบทบาทอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภา ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและความร่วมมือที่ดีจากภาคสังคม เพื่อร่วมรับฟังและตอบปัญหาในประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยมี ตัวแทนจากหลายๆ หน่วยงาน อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงคมนาคม
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--