สศก. เผยทิศทางราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ที่เกษตรกรขายได้ในเดือนมีนาคม มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยราคาลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดเฉลี่ย กก.ละ 170.75 บาท เป็น กก.ละ 89 บาท ณ วันที่ 14 มีนาคม และเพิ่มขึ้นเป็น กก.ละ 130 บาท ณ วันที่ 18 มีนาคม เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในลิเบีย และจีนชะลอการส่งมอบยาง ประกอบกับเหตุสึนามิในญี่ปุ่น
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ที่เกษตรกรขายได้ในช่วงเดือนมีนาคม 2554 ซึ่งเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอย่างรวดเร็ว โดยราคามีแนวโน้มลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งเป็นราคาสูงที่สุดเฉลี่ยกิโลกรัมละ 170.75 บาท เป็นกิโลกรัมละ 89 บาท ราคา ณ วันที่ 14 มีนาคม 2554 และราคาเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 155 บาท ราคา ณ วันที่ 22 มีนาคม 2554 ซึ่งพบว่า สำหรับราคาซื้อขายล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 ในตลาดสิงคโปร์และตลาดโตเกียวเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
โดยสาเหตุการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอย่างรวดเร็วของราคายางพาราในช่วงเดือนมีนาคม 2554 ราคาลดลง เนื่องจาก 1) เป็นไปตามวัฏจักรของราคายางพาราซึ่งเป็นสินค้าที่มีการซื้อขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้า และจากการวิเคราะห์ดัชนีราคายางแผ่นดิบที่เกษตรกรขายได้ ราคายางจะโน้มสูงขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม และอยู่ในระดับสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากพ่อค้าจะเร่งรับซื้อยางเก็บเข้าสต๊อกเพื่อรอการส่งมอบในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน และผู้ประกอบการค้ายางทั่วไปทราบดีว่าในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ของทุกปีเป็นช่วงต้นยางผลัดใบ ผลผลิตจะออกสู่ตลาดน้อยมาก ทำให้การเสนอซื้อยางในช่วงนี้ชะลอตัวราคาจึงปรับตัวลดลง ราคายางจะโน้มสูงขึ้นอีกครั้งเมื่อผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดในเดือนพฤษภาคม — มิถุนายน เพราะผู้ประกอบการค้ายางจะเข้าตลาดเพื่อซื้อยางรอส่งมอบในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนมีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย การเสนอซื้อจึงมีไม่มากนัก สำหรับในช่วง 4 เดือนหลังของปี ราคายางจะเริ่มโน้มสูงขึ้นอีกตั้งแต่เดือนกันยายน-พฤศจิกายน และลดลงในเดือนธันวาคมของทุกปี เนื่องจากเป็นเดือนที่มีผลผลิตยางออกสู่ตลาดมากที่สุด อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนขึ้นลงของราคายางพาราในแต่ละปีจะมากหรือน้อยยังขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เช่น การขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อัตราแลกเปลี่ยน ภาวะสงคราม การเก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้า เป็นต้น
2) สถานการณ์ไม่สงบในประเทศลิเบียและประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ส่งผลทางจิตวิทยาต่อผู้ประกอบการและผู้เก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้า เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เศรษฐกิจของโลกถดถอย จึงมีการเทขายหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคายางลดลงรุนแรง
3) จีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของไทยให้ชะลอการส่งมอบยางพารา เนื่องจากเห็นว่าราคายางเริ่มโน้มลดลง ทำให้พ่อค้าส่งออกต้องหาลูกค้าใหม่โดยเสนอราคาขายที่ต่ำลง
4) เกิดภัยพิบัติสึนามิในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ายางพารารายใหญ่ของไทย เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ทำให้คาดว่าความต้องการซื้อยางพาราของญี่ปุ่นอาจลดลง เพราะบริษัทผู้ผลิตอะไหล่รถยนต์ลิขสิทธิ์ของบริษัทโตโยต้า นิสสัน และฮอนด้าได้หยุดดำเนินการผลิตชั่วคราว
ส่วนสาเหตุราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ไทยได้ขอความร่วมกับประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย ให้ชะลอการทำสัญญาซื้อขายยางพารา ส่งผลทางจิตวิทยาต่อผู้ประกอบการและผู้เก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้ารวมทั้งประเทศผู้ใช้เกรงว่าจะไม่สามารถซื้อยางพาราได้ หากทั้ง 3 ประเทศร่วมมือกัน และคาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้ในระยะเวลาไม่นาน ซึ่งจะส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ตารางที่ 1 ราคายางแผ่นคุณภาพ 3 และราคายางแผ่นรมควันชั้น 3
หน่วย : บาท/กก.
ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ราคาซื้อขายล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3
เกษตรกร ตลาดสิงคโปร์ ตลาดโตเกียว ตลาด AFET ม.ค.2554 148.61 168.13 167.78 167.8 ก.พ.2554 170.75 189.65 188.04 189.5 1 มี.ค.2554 161 181.56 186.38 180 2 มี.ค. 2554 162 182.56 186.41 179.5 3 มี.ค. 2554 164 181.94 182.88 183 4 มี.ค.2554 163 181.94 182.88 184 7 มี.ค. 2554 160 179.81 182.26 182.5 8 มี.ค. 2554 150 174.05 168.53 178.1 9 มี.ค. 2554 138 164.4 168.71 172.6 14 มี.ค. 2554 89 144.7 147.8 151.9 15 มี.ค. 2554 95 126.6 143.2 144.9 16 มี.ค. 2554 100 129.85 141.02 137.9 17 มี.ค. 2554 115 138.1 147.17 142 18 มี.ค. 2554 130 150.53 155.09 149 21 มี.ค. 2554 154 163.1 ปิด 159 22 มี.ค. 2554 155 167.46 161.77 166
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--