สศก. เผย ทิศทางอนาคตมันสำปะหลังพืชเศรษฐกิจในจังหวัดขอนแก่น

ข่าวทั่วไป Friday April 1, 2011 13:14 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สศก. แจงสถานการณ์มันสำปะหลังของ จ.ขอนแก่นในปี 53 มี พื้นที่ปลูก 226,063 ไร่ ผลผลิตหัวมันสด 661,024 ตัน โดยเฉลี่ย 3 ตันต่อไร่ เผย แนวโน้มปี 54 พื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 15 โดยไทยยังเป็นผู้ส่งออกหลัก สามารถกำหนดราคาส่งออกในรูปเงินดอลลาร์ให้สูงขึ้นชดเชยอัตราแลกเปลี่ยนได้ ส่งราคามันสำปะหลังจึงปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน

นายบัณฑิต มงคลวีราพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 4 (สศข.4) จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า สศก. ได้จัดสัมมนาทิศทางอนาคตมันสำปะหลังพืชเศรษฐกิจขอนแก่นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้เกษตรกรได้ทราบนโยบายโครงการประกันรายได้ และสถานการณ์แนวโน้มของมันสำปะหลัง ปี 2554 สถานการณ์การผลิตมันสำปะหลังของจังหวัดขอนแก่น เทคนิคการจัดการเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคนิคการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังระหว่างเกษตรกรด้วยกัน ซึ่งการสัมมนาดังกล่าวทำให้เกษตรกรได้รับความรู้และนำไปปรับใช้กับการพัฒนามันสำปะหลังของตนเองได้

สำหรับสถานการณ์การผลิตมันสำปะหลังของ จ.ขอนแก่นในปี 2553 ถือว่ามันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอันดับ 3 ของจังหวัดขอนแก่น มีเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังประมาณ 22,000 ครัวเรือนมีพื้นที่ปลูก 226,063 ไร่ ได้ผลผลิตหัวมันสดประมาณ 661,024 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย 3 ตันต่อไร่ ต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 1.21 บาท/กก. สำหรับฤดูปลูกมันสำปะหลังของจังหวัดขอนแก่น จะปลูกมันสำปะหลัง 2 ช่วง คือช่วงต้นฝนประมาณ 40% ของพื้นที่ปลูก (เม.ย.- มิ.ย.) และจะเก็บเกี่ยวมากเดือน มิ.ย.- ก.ค.ในปีถัดไป ส่วนช่วงปลายฝน ประมาณ 60%ของพื้นที่ปลูก (ก.ย.- พ.ย.) เก็บเกี่ยวเดือน ก.ค. — ส.ค.ในปีถัดไป การเก็บเกี่ยวของเกษตรกรส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับสภาพความชื้นของดิน ราคาหัวมันสด และอายุต้นมัน เป็นปัจจัยหลัก โดยทั่วไปมีการเก็บเกี่ยวเกือบตลอดปี ซึ่งราคาหัวมันสำปะหลังสดที่เกษตรกรขายได้ในปี2553 เฉลี่ย 2.55 บาท/ก.ก. และราคาสูงสุดถึง 3.30 บาท/ก.ก. ในเดือน ก.ค.

          ด้านแนวโน้มสถานการณ์ในปี 2554 คาดว่าความต้องการใช้ในประเทศและต่างประเทศยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากภัยธรรมชาติ ทำให้ผลผลิตลดลง แต่ความต้องการมีมากขึ้น ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นและถึงแม้ว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นแต่เนื่องจากไทยเป็นผู้ส่งออกหลัก จึงสามารถกำหนดราคาส่งออกในรูปเงินดอลลาร์ให้สูงขึ้นชดเชยอัตราแลกเปลี่ยนได้ ดังนั้นราคามันสำปะหลังจึงปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกัน  ส่วนราคาที่เกษตรกรขายได้จะสูงขึ้นจากปี 2553  จูงใจทำให้เกษตรกรหันมาสนใจปลูกกันเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าปี 2554 จะมีพื้นที่ปลูกประมาณ 260,000 ไร่  เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 15 และเกษตรกรได้ให้ความสนใจในการหาวิธีการเพิ่มผลผลิตเฉลี่ยให้ได้ 4 - 5 ตันต่อไร่ รวมทั้งวิธีลดต้นทุนการผลิต                     โดยวิธีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น ใส่ปุ๋ยเพิ่มขึ้นโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ทำเอง เก็บท่อนมันไว้ทำพันธุ์เอง มีการกำจัดวัชพืช  ใช้วิธีการเตรียมดินโดยยกร่อง ปลูกเป็นแถวเดี่ยว ถ้าดินดีปลูกห่าง 1.00x 1.00 ม. โดยควรปลูกพันธุ์ระยอง 5,7,90            ถ้าดินเลวปลูกถี่ระยะห่าง 0.80x 0.80 ม.  และควรปลูกพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 เนื่องจากดูแลง่าย ผลผลิตสูง และท่อนพันธุ์สามารถเก็บได้นานกว่าพันธุ์อื่นๆ คือเก็บได้นานถึง 60 วันหลังการเก็บเกี่ยว โดยใช้ท่อนพันธุ์อายุ 8 — 12 เดือน  ตัดท่อนพันธุ์ยาว 20 - 25 ซ.ม. สำหรับการเก็บเกี่ยว เกษตรกรส่วนใหญ่ 80% จะเก็บเกี่ยวมันเมื่ออายุ 8-12 เดือน เปอร์เซ็นต์แป้งจะสูงเมื่อมันมีอายุ 11-12 เดือน  ส่วนเกษตรกร 40% จะเก็บเกี่ยวมันเมื่ออายุไม่ถึง 8 เดือน เพราะมีปัจจัยเรื่องราคาดีรีบขาย           แต่ถ้าเก็บเกี่ยวในช่วงหน้าฝนเป็นมันอายุน้อยจะได้เปอร์เซ็นต์แป้งต่ำ ถ้าเก็บเกี่ยวมันอายุมากกว่า 12 เดือน เปอร์เซนต์แป้งจะเริ่มลดลงเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อผลผลิตมันสำปะหลังปี 2554 ที่ทำให้เนื้อที่เก็บเกี่ยวและผลผลิตต่อไร่มันสำปะหลังลดลง คือปัญหาภัยแล้ง อุทกภัยและการระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพู ซึ่ง จ.ขอนแก่นพบการระบาดแต่ไม่รุนแรงมากนัก สาเหตุจากเกษตรกรนำท่อนพันธุ์ในพื้นที่ที่มีการระบาดมาจากจังหวัดอื่น แต่หากมีการระบาดควรใช้ชีววิธีโดยใช้แตนเบียนซึ่งสามารถควบคุมการระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพูได้ และพบว่าแตนเบียนไม่มีผลกระทบในทางลบต่อสิ่งแวดล้อม แต่จะส่งผลดีช่วยควบคุมเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง และจะช่วยให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกมันสำปะหลังได้โดยไม่ต้องใช้สารเคมี ที่เป็นอันตรายต่อเกษตรกร ผู้บริโภคและสภาพแวดล้อม

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ