ราคายางแผ่นดิบชั้น 3 ตลาดหาดใหญ่ สัปดาห์นี้ 81.30 บาท/กิโลกรัม
1. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาภายในประเทศ
นายหลักชัย กิตติพล นายกสมาคมยางพาราไทย กล่าวว่าผู้ส่งออกยางพาราไทยได้ทำสัญญาการค้าร่วมกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ คาดว่า
จะทำให้อุปสงค์ยางจากทั้ง 2 ประเทศน่าจะมีมากขึ้น ท่ามกลางภาวะวิกฤติเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (sub - prime) โดยผู้ส่งออกไทยจะได้เรียนรู้เกี่ยว
กับอุปสงค์ยางพาราและเตรียมความพร้อมรับภาวการณ์แลกเปลี่ยน ซึ่งผู้ส่งออกไทยเกรงว่าปัญหา sub prime ที่ทุกคนกังวลกันนั้นจะทำให้เศรษฐกิจโลก
ถดถอยและจะกระทบกับอุปสงค์ยางพาราของไทย ในปีนี้ไทยส่งออกยางพารา 2.7 ล้านตัน มูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไทยส่งออก
ยางไปจีนมากที่สุด มีส่วนแบ่งการตลาด ร้อยละ 30 รองลงมาคือ ญี่ปุ่น ร้อยละ 20-30 ,สหรัฐอเมริการ้อยละ 15- 16 ,เกาหลีใต้
ร้อยละ 11 — 12 ส่วนที่เหลือคือมาเลเซีย หลังจากทำสัญญาการค้าร่วมกันแล้วผู้ส่งออกไทยคาดหวังว่า ญี่ปุ่นน่าจะมาลงทุนด้าน
กระบวนการผลิตยางพาราในไทย ซึ่งมีบริษัทผู้ผลิตยางล้อของญี่ปุ่นอยู่ก่อนแล้ว เช่น บริษัทบริดสโตน บริษัทโยโกฮามา และบริษัทซูมิโตโม ไทย
มีศักยภาพดีพอที่สามารถดึงดูดนักลงทุนมาลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือยางและถุงยางอนามัย ซึ่งโรงงาน Okamoto เป็นผู้นำในด้านนี้พร้อมจะ
มาสร้างโรงงานในไทย และจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์ ในปี 2551 นี้ผู้ส่งออกไทยจะต้องหาตลาดใหม่เพิ่มขึ้น เช่น ยุโรป
ตะวันออก และอเมริกา
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
1. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 77.69 บาท สูงขึ้นจาก 74.68 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.01 บาท หรือร้อยละ 4.03
2. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 77.19 บาท สูงขึ้นจาก 74.18 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.01 บาท หรือร้อยละ 4.06
3. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 76.69 บาท สูงขึ้นจาก 73.68 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.01 บาท หรือร้อยละ 4.09
4. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 4 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 76.33 บาท สูงขึ้นจาก 73.39 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
2.94 บาท หรือร้อยละ 4.01
5. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 5 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 75.57 บาท สูงขึ้นจาก 72.64 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
2.93 หรือร้อยละ 4.03
6. ยางแผ่นดิบคละราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 69.35 บาท ลดลงจาก 71.87 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.52 บาท
หรือร้อยละ 3.51
7. ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.18 บาท สูงขึ้นจาก 40.08 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.10 บาท
หรือร้อยละ 2.74
8. เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.82 บาท สูงขึ้นจาก 35.94 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.88 บาท
หรือร้อยละ 2.45
9. น้ำยางข้นคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 68.98 บาท สูงขึ้นจาก 66.90 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.08 บาท
หรือร้อยละ 3.11
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคม 2550
ณ ท่าเรือกรุงเทพ
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 88.61 บาท สูงขึ้นจาก 84.79 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.82 บาท หรือร้อยละ 4.51
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 87.46 บาท สูงขึ้นจาก 83.64 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.82 บาท หรือร้อยละ 4.57
3. น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.30 บาท สูงขึ้นจาก 52.45 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.85 บาท
หรือร้อยละ 5.43
ณ ท่าเรือสงขลา
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 88.36 บาท สูงขึ้นจาก 84.54 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.82 บาท หรือร้อยละ 4.52
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 87.21 บาท สูงขึ้นจาก 83.39 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.82 บาท หรือร้อยละ 4.58
3. น้ำยางข้นราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.05 บาท สูงขึ้นจาก 52.20 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.85 บาท
หรือร้อยละ 5.46
2. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาในตลาดต่างประเทศ
บริษัท Dak Lak Rubber ได้วางแผนที่จะย้ายฐานการผลิตยางพาราไปยังประเทศ
เพื่อนบ้าน เพื่อความก้าวหน้าของทั้งสองประเทศ โดยบริษัทฯ มีงบประมาณในการลงทุน 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อนำไป
ลงทุนในโครงการปลูกยางพาราในพื้นที่ 10,000 เฮกแตร์ (62,500 ไร่) ใน 3 เมืองของประเทศลาว ภายใต้ข้อตกลงระหว่างรัฐบาล
เวียดนามกับลาว โดยโครงการนี้จะมีพื้นที่ปลูกยางทั้งสิ้น 5,600 เฮกแตร์ ( 35,500 ไร่) และ ปลูกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 650 เฮกแตร์
(4,062.50 ไร่) โดยจะใช้แรงงานของลาว 1,700 คน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้คนในพื้นที่มีงานทำ มีการศึกษา มีสุขภาพที่ดี และการคมนาคม
สะดวกขึ้น ตลอดจนในปี 2551 บริษัทฯได้วางโครงการจะขยายพื้นที่ปลูกยางพาราอีก 2,000 — 2,500 เฮกแตร์ ( 12,500 — 15,625
ไร่) ปลูกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 6,250 ไร่ ปลูกกาแฟ 1,250 ไร่ และทำป่าไม้ 1,875 ไร่ ใน 3 เมืองทางตอนใต้ของลาว
ราคาต่างประเทศซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคม 2550
ยางแผ่นรมควันชั้น 1
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 372.50 เซนต์สิงคโปร์ (86.53 บาท) สูงขึ้นจาก 363.80 เซนต์สิงคโปร์
(84.32 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.70 เซนสิงคโปร์ หรือร้อยละ 2.39
ยางแผ่นรมควันชั้น 3
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์เฉลี่ยกิโลกรัมละ 255.19 เซนต์สหรัฐ ( 86.19 บาท) สูงขึ้นจาก 247.90 เซนต์สหรัฐ
(83.80 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 7.29 เซนต์สหรัฐ หรือร้อยละ 2.94
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 297.98 เยน (87.82 บาท) สูงขึ้นจาก 283.50 เยน (83.20 บาท)
ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 14.48 เยน หรือร้อยละ 5.11
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 5-11 พ.ย. 2550--
-พห-
1. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาภายในประเทศ
นายหลักชัย กิตติพล นายกสมาคมยางพาราไทย กล่าวว่าผู้ส่งออกยางพาราไทยได้ทำสัญญาการค้าร่วมกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ คาดว่า
จะทำให้อุปสงค์ยางจากทั้ง 2 ประเทศน่าจะมีมากขึ้น ท่ามกลางภาวะวิกฤติเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (sub - prime) โดยผู้ส่งออกไทยจะได้เรียนรู้เกี่ยว
กับอุปสงค์ยางพาราและเตรียมความพร้อมรับภาวการณ์แลกเปลี่ยน ซึ่งผู้ส่งออกไทยเกรงว่าปัญหา sub prime ที่ทุกคนกังวลกันนั้นจะทำให้เศรษฐกิจโลก
ถดถอยและจะกระทบกับอุปสงค์ยางพาราของไทย ในปีนี้ไทยส่งออกยางพารา 2.7 ล้านตัน มูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไทยส่งออก
ยางไปจีนมากที่สุด มีส่วนแบ่งการตลาด ร้อยละ 30 รองลงมาคือ ญี่ปุ่น ร้อยละ 20-30 ,สหรัฐอเมริการ้อยละ 15- 16 ,เกาหลีใต้
ร้อยละ 11 — 12 ส่วนที่เหลือคือมาเลเซีย หลังจากทำสัญญาการค้าร่วมกันแล้วผู้ส่งออกไทยคาดหวังว่า ญี่ปุ่นน่าจะมาลงทุนด้าน
กระบวนการผลิตยางพาราในไทย ซึ่งมีบริษัทผู้ผลิตยางล้อของญี่ปุ่นอยู่ก่อนแล้ว เช่น บริษัทบริดสโตน บริษัทโยโกฮามา และบริษัทซูมิโตโม ไทย
มีศักยภาพดีพอที่สามารถดึงดูดนักลงทุนมาลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือยางและถุงยางอนามัย ซึ่งโรงงาน Okamoto เป็นผู้นำในด้านนี้พร้อมจะ
มาสร้างโรงงานในไทย และจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์ ในปี 2551 นี้ผู้ส่งออกไทยจะต้องหาตลาดใหม่เพิ่มขึ้น เช่น ยุโรป
ตะวันออก และอเมริกา
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
1. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 77.69 บาท สูงขึ้นจาก 74.68 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.01 บาท หรือร้อยละ 4.03
2. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 77.19 บาท สูงขึ้นจาก 74.18 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.01 บาท หรือร้อยละ 4.06
3. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 76.69 บาท สูงขึ้นจาก 73.68 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.01 บาท หรือร้อยละ 4.09
4. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 4 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 76.33 บาท สูงขึ้นจาก 73.39 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
2.94 บาท หรือร้อยละ 4.01
5. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 5 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 75.57 บาท สูงขึ้นจาก 72.64 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
2.93 หรือร้อยละ 4.03
6. ยางแผ่นดิบคละราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 69.35 บาท ลดลงจาก 71.87 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.52 บาท
หรือร้อยละ 3.51
7. ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.18 บาท สูงขึ้นจาก 40.08 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.10 บาท
หรือร้อยละ 2.74
8. เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.82 บาท สูงขึ้นจาก 35.94 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.88 บาท
หรือร้อยละ 2.45
9. น้ำยางข้นคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 68.98 บาท สูงขึ้นจาก 66.90 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.08 บาท
หรือร้อยละ 3.11
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคม 2550
ณ ท่าเรือกรุงเทพ
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 88.61 บาท สูงขึ้นจาก 84.79 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.82 บาท หรือร้อยละ 4.51
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 87.46 บาท สูงขึ้นจาก 83.64 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.82 บาท หรือร้อยละ 4.57
3. น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.30 บาท สูงขึ้นจาก 52.45 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.85 บาท
หรือร้อยละ 5.43
ณ ท่าเรือสงขลา
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 88.36 บาท สูงขึ้นจาก 84.54 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.82 บาท หรือร้อยละ 4.52
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 87.21 บาท สูงขึ้นจาก 83.39 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
3.82 บาท หรือร้อยละ 4.58
3. น้ำยางข้นราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.05 บาท สูงขึ้นจาก 52.20 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.85 บาท
หรือร้อยละ 5.46
2. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาในตลาดต่างประเทศ
บริษัท Dak Lak Rubber ได้วางแผนที่จะย้ายฐานการผลิตยางพาราไปยังประเทศ
เพื่อนบ้าน เพื่อความก้าวหน้าของทั้งสองประเทศ โดยบริษัทฯ มีงบประมาณในการลงทุน 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อนำไป
ลงทุนในโครงการปลูกยางพาราในพื้นที่ 10,000 เฮกแตร์ (62,500 ไร่) ใน 3 เมืองของประเทศลาว ภายใต้ข้อตกลงระหว่างรัฐบาล
เวียดนามกับลาว โดยโครงการนี้จะมีพื้นที่ปลูกยางทั้งสิ้น 5,600 เฮกแตร์ ( 35,500 ไร่) และ ปลูกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 650 เฮกแตร์
(4,062.50 ไร่) โดยจะใช้แรงงานของลาว 1,700 คน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้คนในพื้นที่มีงานทำ มีการศึกษา มีสุขภาพที่ดี และการคมนาคม
สะดวกขึ้น ตลอดจนในปี 2551 บริษัทฯได้วางโครงการจะขยายพื้นที่ปลูกยางพาราอีก 2,000 — 2,500 เฮกแตร์ ( 12,500 — 15,625
ไร่) ปลูกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 6,250 ไร่ ปลูกกาแฟ 1,250 ไร่ และทำป่าไม้ 1,875 ไร่ ใน 3 เมืองทางตอนใต้ของลาว
ราคาต่างประเทศซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคม 2550
ยางแผ่นรมควันชั้น 1
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 372.50 เซนต์สิงคโปร์ (86.53 บาท) สูงขึ้นจาก 363.80 เซนต์สิงคโปร์
(84.32 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.70 เซนสิงคโปร์ หรือร้อยละ 2.39
ยางแผ่นรมควันชั้น 3
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์เฉลี่ยกิโลกรัมละ 255.19 เซนต์สหรัฐ ( 86.19 บาท) สูงขึ้นจาก 247.90 เซนต์สหรัฐ
(83.80 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 7.29 เซนต์สหรัฐ หรือร้อยละ 2.94
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 297.98 เยน (87.82 บาท) สูงขึ้นจาก 283.50 เยน (83.20 บาท)
ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 14.48 เยน หรือร้อยละ 5.11
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 5-11 พ.ย. 2550--
-พห-