สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยผลการติดตามการดำเนินงานโครงการคัดเลือกพ่อพันธุ์กำแพงแสนเพื่อใช้ผลิตน้ำเชื้อ ในช่วงเดือนสิงหาคม 2554 ในพื้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ พบเกษตรกรพึงพอใจโคลูกผสมพันธุ์กำแพงแสนที่เลี้ยงง่าย โตไว ขายได้ราคาดี
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินโครงการคัดเลือกพ่อพันธุ์กำแพงแสนเพื่อใช้ผลิตน้ำเชื้อ เป็นหนึ่งในโครงการปรับโครงสร้างสินค้าโคเนื้อ โดยใช้เงินกองทุน FTA เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้น้ำเชื้อลูกผสมปรับปรุงสายพันธ์โคเนื้อให้มีคุณภาพดีขึ้น สามารถรองรับตลาดเนื้อคุณภาพที่กำลังขยายตัวได้ โคเนื้อลูกผสมพันธุ์กำแพงแสน ได้รับการพัฒนาโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการผลิตกระบือและโค สถาบันสุวรรณวาจกกสิกิจฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งโคพันธุ์กำแพงแสนที่ให้ลักษณะโครงร่างใหญ่ อัตรการแลกเนื้อดี เลี้ยงง่าย โตไว คุณภาพดีเนื้อดี ขั้นตอนการปรับปรุงสายพันธุ์โคเนื้อกำแพงแสนดำเนินการโดยทำการคัดเลือกแม่โคพันธุ์ไทยพื้นเมืองผสมพันธุ์บราห์มันที่มีลักษณะเหมาะสมตามเกณฑ์ที่กำหนด นำมาผสมกับน้ำเชื้อโคเนื้อชาโลเล่ศ์พันธุ์แท้ เพื่อให้ได้โคเนื้อลูกผสมพันธุ์กำแพงแสนที่สามารถสามารถทดแทนเนื้อโคนำเข้าจากต่างประเทศได้
นอกจากนี้จากการสอบถามเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ ส่วนใหญ่มีความสนใจเลี้ยงโคเนื้อกำแพงแสนเพราะเป็นสายพันธุ์โคเนื้อลูกผสมที่เลี้ยงง่าย โตไว ขายได้ราคาดี โดยพบว่าลูกโคเนื้อพันธุ์กำแพงแสนที่เกษตรกรขายได้ราคาสูงกว่าโคเนื้อพันธุ์อื่นๆ (ไทยพื้นเมือง บราห์มัน ฮินดูบราซิล) กว่าเท่าตัวโดยลูกโคเนื้อพันธุ์อื่นๆ ที่อายุ 1 ปี ขายได้ประมาณ 6,000 — 8,000 บาท/ตัว แต่ลูกโคเนื้อพันธุ์กำแพงแสนสามารถขายได้ตั้งแต่ 10,000 — 15,000 บาท/ตัว และเป็นที่ต้องการของพ่อค้าท้องถิ่น รวมถึงผู้เลี้ยงโคขุน ทำให้เกษตรกรมีความสนใจในการเลี้ยงโคพันธุ์กำแพงแสนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคทราบอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งจัดหลักสูตร การอบรมการเลี้ยง ปรับปรุงสายพันธ์ การผสมเทียมและการป้องกันโรค เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตโคเนื้อลูกผสมกำแพงแสนได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--