กระทรวงเกษตรฯ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (APTERR) ร่วมกับกระทรวงเกษตรป่าไม้ และประมง ประเทศญี่ปุ่น จัดสรรข้าวสารบรรจุถุง แก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยมอบผ่านมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และมูลนิธิชัยพัฒนา พร้อมลงพื้นที่มอบใน 12 จังหวัดภาคกลางและภาคเหนือของไทย
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในหลายจังหวัดของทางภาคกลางและภาคเหนือของประเทศไทยที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ซึ่งมีความต้องการความช่วยเหลือด้านอาหาร ดังนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve : APTERR) จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรป่าไม้และประมง ประเทศญี่ปุ่น ในการจัดสรรข้าวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในประเทศไทย เป็นข้าวสาร จำนวน 50 ตัน และข้าวสวยปรุงรสพร้อมรับประทาน จำนวน 31,000 กระป๋อง
สำหรับการส่งมอบข้าวไปยังผู้ประสบอุทกภัย จะดำเนินการโดยการนำข้าวสำรองที่มีอยู่จริงไปมอบใน 2 แนวทาง คือส่งมอบในพื้นที่ต่างๆ ที่เดือดร้อน ในรูปแบบทั้งข้าวสารบรรจุถุง (พื้นที่เดือดร้อนที่ยังสามารถหุงข้าวสารได้) ถุงละ 5 กก. จำนวน 7,000 ถุง รวม 35 ตัน เป็นชนิดข้าวสารขาว 5% และในรูปแบบข้าวสวยปรุงรสบรรจุกระป๋อง (พื้นที่เดือดร้อนรุนแรงประชาชนที่ไม่สามารถทำการหุงข้าวได้) ประมาณ 16,000 กระป๋อง และส่งมอบผ่าน 3 มูลนิธิ ได้แก่ มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นข้าวสาร จำนวน 15 ตัน และข้าวสวยพร้อมรับประทาน จำนวน 15,000 กระป๋อง
ด้านนายอภิชาต จงสกุล กล่าวว่า ส่วนการส่งมอบในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรงนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรจะดำเนินการส่งมอบให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัด และประสานกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขตเพื่อลงพื้นที่แจกในพื้นที่เป้าหมายที่เดือดร้อน ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชัยนาท กรุงเทพฯ ลพบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ปทุมธานี นนทบุรี นครสวรรค์ และ อุทัยธานี ทั้งนี้ จะดำเนินการส่งมอบให้แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2554
สำหรับองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (APTERR) นั้น ได้จัดตั้งขึ้นภายใต้ตกลง(APTERR Agreement) ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการ (APTERR Council) ประกอบด้วย ผู้แทนของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ ไทย พม่า ลาว อินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศบวก 3 ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแนวทางดำเนินงาน ภายใต้ความตกลง (Agreement) ที่จัดทำขึ้น โดยมีสำนักเลขานุการ (APTERR Secretariat) ดำเนินงานและมีสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเป็นผู้ดูแล มีจุดประสงค์สำคัญของการดำเนินงาน คือระบายข้าวช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติและบรรเทาความอดอยากหิวโหยโดยกำหนดประเภทของข้าวและหลักการในการระบาย ออกเป็น 2 ประเภท คือ ข้าวสำรองในรูปสัญญา (Earmarked Reserve) จำนวน 787,000 ตัน โดยแนวทางดำเนินงานจะให้ประเทศสมาชิกจับคู่ทำสัญญาซื้อขายในราคาที่เหมาะสม รวดเร็ว ทันต่อการช่วยเหลือ ทั้งนี้ขึ้นกับข้อตกลงระหว่างคู่สัญญา และข้าวสำรองจริง (Stockpiled Reserve) อาจจะเป็นข้าวที่มีอยู่จริงหรือเงินสด ซึ่งองค์กรจะได้รับแบบให้ฟรีจากประเทศสมาชิก ASEAN+3 เพื่อนำไปช่วยเหลือประเทศสมาชิก ASEAN+3 ที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินรุนแรง หรือช่วยเหลือขจัดความยากจนและอดอยากหิวโหยแก่ประชาชนในภูมิภาคนี้ อีกทั้งช่วยให้เกิดความมั่นคงทางด้านอาหารเพิ่มขึ้นในกรณีเกิดภัยพิบัติฉุกเฉินสามารถนำไปใช้บรรเทาความอดยากหิวโหยเมื่อจำเป็น รวมทั้งจะทำให้ราคาข้าวเกิดความมีเสถียรภาพมากขึ้นอีกด้วย นายอภิชาต กล่าว
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--