สศข.10 ติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรชายแดน ปี 53-54 ในพื้นที่รับผิดชอบ 2 ด่าน ได้แก่ ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี เผย ปี 54 มีการนำเข้าสินค้าเกษตรเป็นมูลค่ากว่า 41.50 ล้านเพิ่มขึ้นจากปี 53 คิดเป็นร้อยละ 102 โดยมีนโยบายที่จะส่งเสริมสนับสนุน ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรในอนาคตหวังสนองนโยบายรัฐบาลในเรื่องส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน และยุทธศาสตร์ท่องเที่ยว
นายสมมาตร ยิ่งยวด ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 (สศข.10) ราชบุรี สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงก รติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบ ที่ทาง สศข.10 ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา ซึ่งประกอบไปด้วย 2 ด่าน คือ ด่านสิงขร ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ ด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยจากการสำรวจพบว่า ภาวะการค้าสินค้าเกษตรชายแดน ปี 2553 มีการนำเข้าสินค้าเกษตรจากทั้ง 2 ด่าน รวมมูลค่า 40.87 ล้านบาท ซึ่งแยกเป็น ด่านสิงขร จำนวน 1.11 ล้านบาท และด่านเจดีย์สามองค์ จำนวน 39.76 ล้านบาท
สำหรับในปี 2554 มีการนำเข้าสินค้าเกษตรจากทั้ง 2 ด่าน รวมมูลค่า 82.37 ล้านบาท แยกเป็น ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 14.01 ล้านบาท และด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี จำนวน 68.36 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบมูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตรปี 2554 แล้วมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น เป็นมูลค่า 41.50 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 102 ของการนำเข้าสินค้าเกษตร
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่สินค้าที่นำเข้า ได้แก่ โค กระบือ แพะ ผลิตภัณฑ์ไม้ พืช และผลิตภัณฑ์จากพืช สำหรับสินค้านำเข้าที่สำคัญ และมีมูลค่ามาก คือ โค และ กระบือ เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาดและมีราคาถูกกว่าสินค้าเกษตรในประเทศ กอปรกับ พ่อค้าใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะนิยมโคและกระบือ มาขุน ให้ได้ขนาดที่ต้องการแล้วจึงส่งขายตลาดทางภาคใต้ ส่วน จ.กาญจนบุรี ส่วนใหญ่เมื่อโคและกระบือมีขนาดตามที่ตลาดต้องการแล้วจะส่งขายเข้าโรงฆ่าสัตว์ในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทั้งสองด่านยังเป็นจุดผ่อนปรน และทางจังหวัดได้มีนโยบายที่จะส่งเสริมสนับสนุน ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรในอนาคต เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในเรื่องส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน และเพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว นายสมมาตร กล่าวในที่สุด
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--