1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
การผลิต
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้พยากรณ์การผลิตกาแฟปี 2555 โดยมีเนื้อที่ให้ผล 302,860 ไร่ ลดลงจากปีที่แล้ว 20,036 ไร่ หรือลดลงร้อยละ 6.21 ผลผลิตทั้งหมด 41,600 ตัน ลดลงจากปีที่แล้ว 794 ตัน หรือร้อยละ 1.87 ผลผลิตต่อไร่เฉลี่ย 137 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 6 กิโลกรัม หรือร้อยละ 4.58
ในปี 2555 เนื้อที่ให้ผลผลิตกาแฟทั้งประเทศลดลง เนื่องจากแหล่งผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสตาทางภาคใต้และภาคกลางลดลง จากการโค่นต้นกาแฟทิ้งในสวนที่ปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมันแซม เนื่องจากยางพาราและปาล์มน้ำมันโตเต็มที่ ส่งผลให้ผลผลิตทั้งหมดลดลง สำหรับผลผลิตกาแฟพันธุ์อาราบิกาทางภาคเหนือเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการส่งเสริมจากบริษัทเอกชน ประกอบกับเกษตรกรได้รับผลตอบแทนอยู่ในเกณฑ์ดี จึงมีการปลูกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากต้นกาแฟมีการติดดอกออกผลดี และสมบูรณ์กว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับราคาสารกาแฟอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรเพิ่มการดูแลสวนกาแฟ
ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของไทยในปี 2555
กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟในปี 2555 ของโรงงานแปรรูปในประเทศ จะมี 67,620 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 61,480 ตัน ของปี 2554 ร้อยละ 9.99 เนื่องจากการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ปี ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโรงงาน (ตัน) 2551 53,479 2552 53,803 2553 58,000 2554 61,480 2555 67,620 อัตราเพิ่ม/ลด (ร้อยละ) 6.21
ที่มา : กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
การค้า
การส่งออกกาแฟของไทยปี 2554 มีการส่งออกเมล็ดกาแฟปริมาณ 856.32 ตัน มูลค่า 131.16 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 534.79 ตัน มูลค่า 77.49 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 60 และร้อยละ 69 ตามลำดับ สำหรับกาแฟสำเร็จรูปมีการส่งออก 5,262.67 ตัน มูลค่า 905.74 ล้านบาท ลดลงจากปริมาณ 8,313.46 ตัน มูลค่า 1,107.81 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 37 และร้อยละ 18 ตามลำดับ และไทยนำเข้าเมล็ดกาแฟ ปริมาณ 34,851.07 ตัน มูลค่า 2,734.16 ล้านบาท สูงขึ้นจากปริมาณ 14,621.41 ตัน มูลค่า 862.35 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 2.38 เท่า และ 3.17 เท่า ตามลำดับ สำหรับกาแฟสำเร็จรูปมีการนำเข้าปริมาณ 4,466.21 ตัน มูลค่า 1,313.57 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 3,016.55 ตัน มูลค่า 743.79 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 48.06 และ ร้อยละ 76.60 ตามลำดับ
1. สรุปภาวการณ์ผลิตการตลาดและราคาในต่างประเทศ
การผลิต
กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ได้คาดคะเนผลผลิตกาแฟโลก ในปี 2554/55 ว่าจะมีผลผลิต 8.03 ล้านตัน ลดลงจาก 8.18 ล้านตัน ของปี 2553/54 ร้อยละ 1.89 โดยประเทศบราซิลผู้ผลิตอันดับ 1 ของโลกผลิตได้ 2.95 ล้านตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 9.72 รองลงมาคือ เวียดนาม ผลิตได้ 1.24 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 11.35 และโคลัมเบีย ผลิตได้ 0.51 ล้านตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 10.53 เนื่องจาก โคลัมเบียประสบกับภาวะฝนตกหนัก ทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย
องค์การกาแฟระหว่างประเทศ (ICO) รายงานการส่งออกกาแฟในช่วง 3 เดือนแรก (ตค. 54 — ธ.ค. 54) ของปีเพาะปลูก 2554/55 มีปริมาณ 1.463 ล้านตัน ลดลงจาก 1.484 ล้านตัน จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือลดลงร้อยละ 1.4
สำหรับในเดือนธันวาคม ปี 2554 มีปริมาณการส่งออกกาแฟโลก 0.548 ล้านตัน ลดลงจาก 0.552 ล้านตัน ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือลดลงร้อยละ 0.725
ความต้องใช้เมล็ดกาแฟของโลก ปี 2554/55
กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา คาดคะเนความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโลกในปี 2554/55 ว่าจะมี 8.03 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 7.87 ล้านตันของปี 2553/54 ร้อยละ 2.03 โดยประเทศที่มีความต้องการใช้เมล็ดกาแฟมากที่สุดได้แก่ กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป 2.79 ล้านตัน รองลงมาได้แก่ สหรัฐอเมริกา 1.44 ล้านตัน และ บราซิล 1.19 ล้านตัน ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากความต้องการบริโภคในประเทศของประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปและบราซิล เป็นต้น
องค์การกาแฟระหว่างประเทศ (ICO) รายงานการส่งออกกาแฟในช่วง 3 เดือนแรก (ตค. 54 — ธ.ค. 54) ของปีเพาะปลูก 2554/55 มีปริมาณ 1.463 ล้านตัน ลดลงจาก 1.484 ล้านตัน จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือลดลงร้อยละ 1.4
สำหรับในเดือนธันวาคม ปี 2554 มีปริมาณการส่งออกกาแฟโลก 0.548 ล้านตัน ลดลงจาก 0.552 ล้านตัน ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือลดลงร้อยละ 0.725
ความต้องใช้เมล็ดกาแฟของโลก ปี 2554/55
กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา คาดคะเนความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโลกในปี 2554/55 ว่าจะมี 8.03 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 7.87 ล้านตันของปี 2553/54 ร้อยละ 2.03 โดยประเทศที่มีความต้องการใช้เมล็ดกาแฟมากที่สุดได้แก่ กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป 2.79 ล้านตัน รองลงมาได้แก่ สหรัฐอเมริกา 1.44 ล้านตัน และ บราซิล 1.19 ล้านตัน ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากความต้องการบริโภคในประเทศของประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปและบราซิล เป็นต้น
ราคาตลาดในประเทศ
ราคาเมล็ดกาแฟเกรดคละที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้ เฉลี่ย 72.26 บาท/กิโลกรัม สูงขึ้น จาก 71.66 บาท/กิโลกรัม ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.84
ราคาในตลาดต่างประเทศ มีดังนี้
ราคาเมล็ดกาแฟดิบอาราบิก้า ตลาดนิวยอร์กซื้อขายทันทีเฉลี่ย 235.73 เซนต์/ปอนด์ (161.11 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจาก 231.21 เซนต์/ปอนด์ (158.02 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.95
ราคาเมล็ดกาแฟดิบโรบัสตา ตลาดนิวยอร์กซื้อขายทันที่เฉลี่ย 107.33 เซนต์/ปอนด์ (73.35 บาท/กิโลกรัม) ลดลงจาก 108.97 เซนต์/ปอนด์ (74.47 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.50
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 6 - 12 กุมภาพันธ์ 2555--