สศก. ร่วมโต้ะเจรจาคณะทำงานร่วมด้านการเกษตร ไทย — จิงโจ้

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ร่วมโต้ะเจรจาด้านการเกษตรไทย-ออสเตรเลีย (Joint working group on Agriculture: JWG on AG) ครั้งที่ 12 เพื่อพิจารณาโครงการความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนนโยบายด้านการเกษตรและข้อมูลการค้าสินค้าเกษตรร่วมกัน โดยออสเตรเลียแสดงความชื่นชมไทยในการบริหารจัดการสินค้าที่มีโควตาภาษี ได้อย่างโปร่งใสและรวดเร็ว

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรไทย-ออสเตรเลีย (Joint working group on Agriculture: JWG on AG) ครั้งที่ 12 ณ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 17พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาโครงการความร่วมมือที่จะร่วมดำเนินการระหว่างกัน รวมทั้งแลกเปลี่ยนนโยบายด้านการเกษตรและข้อมูลการค้าสินค้าเกษตร โดยการประชุมดังกล่าว สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้ร่วมอยู่ในคณะเจรจาฝ่ายไทยด้วย และได้รายงานผลการติดตามสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรระหว่างกันหลังจากมีข้อตกลงการค้าเสรี ไทย - ออสเตรเลีย (TAFTA) พร้อมทั้งรายงานการค้าสินค้าที่มีมาตรการปกป้องพิเศษ จำนวน 23 รายการ เช่น เนื้อวัว ชีส ส้ม องุ่น เป็นต้น และสินค้าที่มีโควตาภาษี ซึ่งยังไม่เปิดตลาดโดยสมบูรณ์ อีกจำนวน 8 รายการ เช่น นมผงขาดมันเนย กาแฟ ฯลฯ รวมถึงได้นำเสนอภาพรวมยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านอาหารของไทย และกรอบยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านอาหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ที่ประชุมทราบด้วย ซึ่งฝ่ายออสเตรเลียได้แสดงความขอบคุณที่ไทยได้บริหารจัดการสินค้าที่มีโควตาภาษี ได้อย่างโปร่งใสและรวดเร็ว

เลขาธิการกล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ตามความตกลง TAFTA แม้ว่าสินค้าส่วนใหญ่จะได้ลด/เลิกภาษีเหลือร้อยละ 0 แล้ว แต่ยังมีสินค้าอ่อนไหวของไทยบางรายการที่ยังสามารถใช้มาตรการปกป้องพิเศษ ได้จนถึงปี 2558 และ 2560 เพื่อให้เกษตรกรภายในประเทศได้ใช้ระยะเวลาดังกล่าวในการปรับตัว ซึ่งทางออสเตรเลียก็ได้มีการร้องขอให้มีการยกเลิกและปรับเพิ่มปริมาณโควตาของสินค้าปกป้องพิเศษ บางรายการ เช่นชีส เนื้อวัว เป็นต้น โดยขณะนี้ทางกระทรวง เกษตรฯ ได้มีการหารือระหว่างหน่วยงานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อเตรียมการสำหรับใช้ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-ออสเตรเลีย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 มิถุนายนนี้

ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยและออสเตรเลีย (ไม่รวมยางพารา) พบว่า เป็นไปในทิศทางที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น จากที่มีมูลค่าการค้า ระหว่างกันเพียง 20,643 ล้านบาทในปี 2547 เพิ่มเป็น 42,657 ล้านบาทในปี 2554 โดยไทยส่งออก เพิ่มขึ้นจาก 12,200 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 25,029 ล้านบาทในปี 2554 และ ไทยนำเข้า เพิ่มขึ้นจาก 8,423 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 17,628 ล้านบาทในปี 2554 อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของสินค้าเกษตรที่ผ่านมาไทยนับได้ว่าเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าออสเตรเลียมาโดยตลอด เลขาธิการกล่าวในที่สุด

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--