สศก. เผยผลประชุมเจรจาร่วมข้อตกลงการค้าเสรีกับชิลี มุ่งหารือรายสินค้าที่ต่างฝ่ายต้องการให้เปิดตลาดพิเศษ พร้อมย้ำข้อตกลงร่วมกันแบบเป็นทางการอีกครั้งเดือนกรกฎาคมนี้ คาด สามารถสรุปผลการเจรจาเสร็จสิ้นในเดือนสิงหาคม ก่อนประกาศความสำเร็จในการประชุมรัฐมนตรี APEC ช่วงเดือนกันยายน 55
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ชิลี ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการเจรจาต่อเนื่องในลักษณะของคณะทำงานย่อย (Working Group) โดยแบ่งเป็นเรื่องการค้าสินค้า (Trade in Goods) การค้าบริการ (Trade in Services) กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (Rule of Origin) ระเบียบว่าด้วยพิธีการด้านศุลกากร (Customs Procedures) และการบริการทางการเงิน (Financial Services)
สำหรับผลการประชุมเรื่องการค้าสินค้านั้น ทั้งสองฝ่ายได้หารือรูปแบบการลดภาษีสินค้าร่วมกัน ซึ่งประเด็นคงค้างเป็นเรื่องสินค้าอ่อนไหวที่ยังไม่สามารถสรุปรูปแบบที่ชัดเจน และต่างฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนรายการสินค้าที่ต้องการให้แต่ละฝ่ายเปิดตลาดให้เป็นพิเศษ (Request List) โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ไทยต้องการให้ชิลีเปิดตลาดให้ทันทีนั้นเป็นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม เช่น เครื่องซักผ้า และตู้เย็น ในส่วนของสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว ส่วนชิลีต้องการให้ไทยเปิดตลาดสินค้าผลไม้เมืองหนาว นอกจากนี้ ชิลีได้แสดงความกังวลในสินค้าไวน์ ซึ่งชิลีถือว่าเป็นสินค้าเอกลักษณ์ของชิลีที่อาจถูกต่อต้านจากภาคส่วนต่างๆ ของไทย
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้พิจารณาร่างข้อบทในความตกลงฯ ร่วมกัน และได้มีความคืบหน้าไปในระดับหนึ่ง โดยได้ตกลงกันที่จะใช้พิกัดภาษีศุลกากร HS 2007 เป็นพื้นฐานในการเจรจา และจะเทียบเป็นพิกัดภาษีศุลกากร HS 2012 สำหรับข้อเสนอที่เสร็จสมบรูณ์แล้ว ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะแลกเปลี่ยน Request List ครั้งที่ 2 ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2555 เพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจาให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม ทันประกาศความสำเร็จในการประชุมรัฐมนตรี APEC ในเดือนกันยายน 2555
เลขาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ มูลค่าการค้าสินค้าทั้งหมดระหว่างไทยกับชิลี (รวมทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม) ใน 4 เดือนแรกของปี 2555 มีมูลค่าการค้ารวม 10,370 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นมูลค่าส่งออก 5,614 ล้านบาท และมูลค่านำเข้า 4,756 ล้านบาท ซึ่งหากพิจารณาเฉพาะสินค้าเกษตรจะพบว่ามีมูลค่าการค้ารวม 2,195 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร 265 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญคือ อาหารบรรจุกระป๋อง และมีมูลค่านำเข้าสินค้าเกษตร 1,930 ล้านบาท เนื่องจากยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าประมงเพื่อเป็นวัตถุดิบในการแปรรูป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--