สศก. ชู ผลสำรวจเกษตรกรปลูกถั่วเขียวตามโครงการจัดระบบปลูกข้าวไปได้สวย ช่วยเกษตรกรได้จริง

ข่าวทั่วไป Thursday October 25, 2012 13:35 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ลุยพื้นที่ 7อำเภอ ของจังหวัดกำแพงเพชร สอบถามความคิดเห็นเกษตรกรที่ปลูกถั่วเขียวตามโครงการจัดระบบปลูกข้าวปีเพาะปลูก 2554/55 ชู เกษตรกรให้การตอบรับ เนื่องจากให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ช่วยตัดวงจรการระบาดของแมลงศัตรูพืช และดินมีความอุดมสมบูรณ์ขึ้นจากการไถกลบต้นถั่วเขียวเป็นปุ๋ย พืชสด ระบุ เกษตรกรยังคงต้องการเข้าร่วมโครงการฯ ในปีเพาะปลูกถัดไป

นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการและรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการจัดระบบการปลูกข้าว เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 พร้อมอนุมัติวงเงิน 1,083.24 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน 4 ปี (ปี 2554 - 2557) โดยมีเป้าหมายดำเนินงานครอบคลุมพื้นที่ 4.6 ล้านไร่ ในเขตพื้นที่ชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวม 22 จังหวัด เพื่อให้ปลูกข้าวปีละไม่เกิน 2 ครั้ง ปลูกข้าวพร้อมกันในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเดียวกัน โดยใช้น้ำไม่เกินปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ เพื่อตัดวงจรการระบาดของศัตรูข้าว และรักษาระบบนิเวศน์ในนาข้าวให้มีความสมดุลได้ ตลอดจนเป็นการลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เสนอโครงการจัดระบบการปลูกข้าว ในปีงบประมาณ 2555 ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา/โครงการชลประทาน 16 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ พิษณุโลก พิจิตร และกำแพงเพชร จำนวน 1,500,000 ไร่

ในการนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้รับมอบหมายให้ติดตามประเมินผล โครงการจัดระบบการปลูกข้าวดังกล่าว และจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในการสำรวจความคิดเห็นเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจัดระบบปลูกข้าว ปีเพาะปลูก 2554/55 เกี่ยวกับผลการปลูกถั่วเขียว ระหว่างวันที่ 6 - 10 กันยายนที่ผ่านมา ของ อ.เมือง อ.คลองขลุง อ.ขาณุวรลักษณ์บุรี อ.บึงสามัคคี อ.ไทรงาม อ.ทรายทองวัฒนา และ อ.พรานกระต่าย ของจังหวัดกำแพงเพชร พบว่า เกษตรกรร้อยละ 92 นำเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวบางส่วนหรือทั้งหมดไปปลูก ส่วนที่เหลือร้อยละ 8 เก็บเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวไว้หรือไม่ได้รับแจกเมล็ดพันธุ์ เนื่องจากเกษตรกรได้รับแจกเมล็ดพันธุ์ช่วงฤดูฝนและพื้นที่โดยรอบเริ่มปลูกข้าวแล้ว ทำให้พื้นที่ปลูกถั่วเขียวอาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังและเน่าตายได้ รวมทั้งเจ้าของพื้นที่นาบางรายอยู่ต่างจังหวัด ทำให้ไม่ทราบข้อมูลการแจกเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว

นอกจากนี้ พบว่า เกษตรกรที่ปลูกถั่วเขียวร้อยละ 97 มีการใช้ประโยชน์เมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว โดยไถกลบต้นถั่วเขียวเป็นปุ๋ยพืชสดบำรุงดิน มีเพียงร้อยละ 3 เก็บเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวจำหน่ายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อในหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามความคิดเห็นเกษตรกรถึงความต้องการเข้าร่วมโครงการการจัดระบบปลูกข้าว ปีเพาะปลูก 2555/56 พบว่า เกษตรกรทั้งหมดยังต้องการเข้าร่วมโครงการจัดระบบปลูกข้าว เนื่องจากการพักแปลงนาและไถกลบต้นถั่วเขียวเป็นปุ๋ยพืชสดจะทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น ช่วยตัดวงจรการระบาดของแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล อีกทั้งผลผลิตข้าวโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 700 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 800 กิโลกรัมต่อไร่อีกด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดกำแพงเพชร ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดทำเวทีชุมชนในพื้นที่โครงการชลประทานของจังหวัด โดยเกษตรกรมีความสมัครใจเลือกปลูกข้าวตามระบบ โดยเว้นปลูกข้าวตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ถึง 1 มิถุนายน 2555 เพื่อปลูกถั่วเขียว มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 12,240 ราย รวมพื้นที่จำนวน 330,847 ไร่ โดยเกษตรกรทุกรายได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว 5 กิโลกรัมต่อไร่ รองเลขาธิการ กล่าวทิ้งท้าย

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ