นายอนุสรณ์ พรชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 1 เชียงใหม่ (สศข.1) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยภายหลังการจัดประชุมคณะกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ แห่งประเทศไทย จำกัด ปีที่ 26 ครั้งที่ 2 ณ ห้องประชุมชุมนุมสหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่แห่งประเทศไทย จำกัด เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า การประชุมดังกล่าว ทาง สศข.1 ได้เข้าร่วมประชุม เพื่อหารือกับทางชุมนุมสหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่แห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณา จัดสรรโควตาเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ ปีการผลิต 2556 ซึ่งทางชุมนุมฯ ได้รับโควตาปีละ 6,944 ปอนด์
ในการนี้ ที่ประชุมจึงมีมติจัดสรรให้ 8 สหกรณ์ ได้แก่ สหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ฝาง จำกัด สหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่บ้านกาดพัฒนา จำกัด สหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่แม่วาง จำกัด สหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ผาตั้ง จำกัด สหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่กาญจนบุรี จำกัด สหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่พร้าว จำกัด สหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่พรหมนิมิตนครสวรรค์ และสหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ช่องแค จำกัด โดยนำโควตาที่ได้รับจัดสรรดังกล่าวข้างต้น ทั้ง 6,944 ปอนด์ มาทดสอบความงอกจำนวน 11 ปอนด์
สำหรับการนำเข้าหอมหัวใหญ่ ในโควตา WTO ซึ่งกำหนดไว้ ในช่วงปี 2555 - 2557 ได้รับอนุมัตินำเข้าเป็น หอมชนิดผง ปีละ 365 ตัน และในปี 2556 มีบริษัทขอนำเข้า จำนวน 6 บริษัท รวม 764 ตัน ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้นำเข้าตามจำนวน 764 ตันดังกล่าว โดยหลักการทั่วไปจะจัดสรรให้บริษัทที่ไม่มีปัญหา
นายอนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านสถานการณ์การผลิต การตลาด หอมหัวใหญ่ ปีการผลิต 2555 / 56 ขณะนี้ แต่ละสหกรณ์ ได้เริ่มหว่านกล้าบ้างแล้ว โดยที่ อำเภอสันป่าตอง แม่วาง และ ฝาง พบว่า เมล็ดพันธุ์ออกดี ไม่ประสบปัญหาใดๆ และในส่วนของพันธ์นอกระบบ คาดว่าไม่มีผลกระทบมากนัก สำหรับในภาพรวม พบว่า ผลผลิตหอมหัวใหญ่ ปี 2555 / 56 คาดว่าจะลดลง เนื่องจากเกษตรกรปีที่ผ่านมาประสบปัญหาราคาตกต่ำ ด้านราคา คาดว่าปี 2555/56 จะไม่มีปัญหาตกต่ำ เนื่องจากไม่มีหอมหัวใหญ่ค้าง Stock ในห้องเย็น โดยการส่งออกมีลู่ทางสดใส เนื่องจากจีน และ ญี่ปุ่น ผลผลิตเสียหาย ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ขอความร่วมมือให้แต่ละสหกรณ์ดูแล รักษาคุณภาพผลผลิต และไม่ควรนำพันธุ์นออกระบบ (บราโว) มาปลูก เนื่องจากจะส่งผลกระทบให้ผลผลิตราคาตกต่ำได้
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--