นายสมมาตร ยิ่งยวด ผู้อำนวยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 ราชบุรี (สศข.10) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรชายแดน ในพื้นที่รับผิดชอบ 2ด่าน คือ ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และด่านสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยสถานการณ์การนำเข้าสินค้าเกษตรชายแดน จากทั้ง 2 ด่าน ปี 2554 มีการนำเข้าสินค้าเกษตร มูลค่า 66.74 ล้านบาท แยกเป็น ด่านสิงขร จำนวน 3.72 ล้านบาท และด่านสังขละบุรี จำนวน 63.02 ล้านบาท สำหรับในปี 2555 มีการนำเข้าสินค้าเกษตร มูลค่า 75.74 ล้านบาท แยกเป็น ด่านสิงขร จำนวน 4.24 ล้านบาท และด่านสังขละบุรี จำนวน 71.50 ล้านบาท ซึ่งสินค้าเกษตรนำเข้าส่วนใหญ่ ได้แก่ โค กระบือ ไม้ไผ่ ปลาสวยงาม พืช และผลิตภัณฑ์จากพืช
เมื่อเปรียบเทียบมูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตรปี 2555 กับปี 2554 แล้ว พบว่ามีการนำเข้าเพิ่มขึ้น เป็นมูลค่า 9 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 13ของการนำเข้าสินค้าเกษตร อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของด่านศุลกากร ทั้งสองแห่ง พบว่า ไม่ปรากฏข้อมูลสินค้าเกษตรที่ส่งออกของทั้งสองด่าน
นายสมมาตรกล่าวต่อไปว่า สำหรับสินค้านำเข้าที่สำคัญและมีมูลค่ามาก คือ โคและกระบือ เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาดและมีราคาถูกกว่าในประเทศ ซึ่งต้องผ่านการกักกันสัตว์เพื่อตรวจหาการแพร่ระบาดของโรค 21 วัน ก่อนส่งต่อให้ผู้ประกอบการ โดยพ่อค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะนิยมนำโคและกระบือมาขุน ให้ได้ขนาดที่ต้องการแล้วจึงส่งขายตลาดทางภาคใต้ ส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนใหญ่โคและกระบือจะมีขนาดตามที่ตลาดต้องการแล้วก็จะส่งขายเข้าโรงฆ่าสัตว์ในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง
ปัจจุบัน ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และด่านสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ทั้งสองด่านนั้นเป็นจุดผ่อนปรน ซึ่งทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีนโยบายเร่งผลักดันการเปิดจุดผ่อนปรนด่านสิงขรให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร นอกจากนี้จะมีการทำถนนจากทวายเข้ามาในไทยบริเวณบ้านน้ำพุร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อรองรับการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และสนองนโยบายรัฐบาลในเรื่องส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในเขตพื้นที่ชายแดนไทย - พม่า ต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--