นายสมมาตร ยิ่งยวด ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 ราชบุรี (สศข.10) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก) เปิดเผยถึงสถานการณ์โรครากปมในมันสำปะหลัง ที่ตรวจพบในเขตพื้นที่อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งขณะนี้พบว่ายังอยู่ในระยะเริ่มต้น มีการระบาดไม่มากนัก จึงอยากเตือนเกษตรกรส่วนใหญ่ที่ปลูกมันสำปะหลังปลายฝน (เดือนสิบสอง) ควรที่จะหลีกเลี่ยงการปลูกช่วงนี้ เนื่องจากอาจเป็นแหล่งรองรับการระบาดของโรคและแมลง และที่อยากเน้นย้ำ คือ โรครากปม ที่เกิดจากไส้เดือนฝอย ซึ่งทำให้มันสำปะหลังไม่มีหัว โดยจะมีลักษณะ “เห็นแต่ต้น” ส่งผลให้ผลผลิตจะลดลง ซึ่งนับเป็นภัยเงียบของโรค เนื่องจากไส้เดือนฝอยในดินที่เข้าทำลายรากฝอยของมันสำปะหลัง จะทำให้มันสำปะหลังไม่สามารถสะสมอาหารที่หัวมันได้ และไม่เจริญเติบโต อย่างไรก็ตาม หากดูภายนอก ต้นมันสำปะหลังจะไม่มีลักษณะผิดปกติแสดงออกมาให้เห็นแต่อย่างใด แต่หากขุดออกมาก็จะสังเกตได้ว่า รากฝอยจะเป็นปุ่มปมคล้ายลูกปัดงอกออกมาจากบริเวณผิวของราก และรากนั้นไม่สามารถพัฒนาเป็นหัวต่อไปได้
ดังนั้น จึงขอเตือนเกษตรกรให้เฝ้าระมัดระวัง หมั่นสังเกต และตรวจสอบต้นมันสำปะหลังเพื่อเป็นการป้องกันอย่างทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งหากเกษตรกรตรวจพบ ควรแก้ไขโดยการเพิ่มอินทรียวัตถุในดินให้มากขึ้น ได้แก่ ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก และเพิ่มความชื้นในดิน เพื่อให้ดินมีคุณสมบัติทางกายภาพที่เหมาะสมสำหรับเป็นอาหารแก่ไส้เดือนและไม่มาทำลายรากฝอยในมันสำปะหลัง นอกจากนี้แล้วไม่ควรนำซากพืชออกนอกพื้นที่ ทั้งนี้ พื้นที่เขตรับผิดชอบของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 ในปัจจุบัน มีการปลูกมันสำปะหลังใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีพื้นที่เก็บเกี่ยว 276,838 ไร่ ให้ผลผลิต 981,114 ตัน จังหวัดราชบุรี พื้นที่เก็บเกี่ยว 62,913 ไร่ ผลผลิต 202,270 ตัน และจังหวัดเพชรบุรี พื้นที่เก็บเกี่ยว 660 ไร่ ให้ผลผลิต 2,293 ตัน ตามลำดับ
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--