นางรัชนี ปิ่นอยู่ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 ราชบุรี (สศข.10) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการศึกษาต้นทุนการผลิตเกลือสมุทรในพื้นที่รับผิดชอบ จังหวัดเพชรบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ซึ่งพบว่า มีพื้นที่ทำการผลิตรวม 64,564 ไร่ แบ่งเป็น เพชรบุรี 36,000 ไร่ สมุทรสาคร 22,587 ไร่ และสมุทรสงคราม 5,977 ไร่ และจากการสอบถามจากเกษตรกรและผู้ประกอบการ พบว่า มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 7,895 บาทต่อไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 6.81 เกวียนต่อไร่ ราคาเกวียนละ 1,881 บาท รายได้ 12,804 บาทต่อไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 5,228 บาทต่อไร่ แยกเป็น จังหวัดเพชรบุรี มีต้นทุนการผลิต 8,129 บาทต่อไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 7.62 เกวียนต่อไร่ ราคาเกวียนละ 1,895 บาท รายได้ 14,445 บาทต่อไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 6,610 บาทต่อไร่
สำหรับจังหวัดสมุทรสาคร มีต้นทุนการผลิต 7,516 บาทต่อไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 5.52 เกวียนต่อไร่ ราคาเกวียนละ 1,938 บาท รายได้ 10,689 บาทต่อไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 3,368 บาทต่อไร่ และจังหวัดสมุทรสงคราม มีต้นทุนการผลิต 7,916 บาทต่อไร่ ราคาเกวียนละ 1,813 บาท รายได้ 12,288 บาทต่อไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 4,602 บาทต่อไร่
ด้านการตลาด พบว่า ชาวนาเกลือขายผลผลิตเกลือให้กับพ่อค้าท้องที่ในลักษณะการตวงและการวัดความสูง 1 ศอก กว้าง 1 วา ยาว 1 วา คิดเป็น 1 เกวียน ได้น้ำหนักเกลือ 1,920 กิโลกรัม โดยปัจจัยที่มีผลต่อการผลิตได้แก่ ค่าแรง ค่าเช่าที่ดิน สภาพ ดินฟ้าอากาศ ที่มีการเปลี่ยนแปลง มีผลกระทบต่อการผลิตเป็นอย่างมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตเกลือสูง รวมทั้งเกษตรกรต้องจำหน่ายผลผลิตเลยเนื่องจากจำเป็นต้องใช้เงิน จึงจำเป็นต้องจำหน่ายในราคาค่อนข้างต่ำและไม่แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกษตรกรชาวนาเกลือพบส่วนใหญ่ได้แก่ ค่าจ้างแรงงานที่ค่อนข้างสูงและหายาก ค่าเช่าที่ดินก็ค่อนข้างสูง และสภาพดินฟ้าอากาศที่แปรปรวน ดังนั้น ควรมีการรวมกลุ่มการผลิตเกลือสมุทรและมีสถานที่รวบรวมผลผลิต และผลิตเกลือเพื่อการบริโภคอย่างมีคุณภาพ และแปรรูปเกลือป่นที่มีคุณภาพและบรรจุภัณฑ์ที่น่าใช้และทางจังหวัดควรรณรงค์ให้ประชาชนในจังหวัดหันมาบริโภคเกลือสมุทรที่มีธาตุไอโอดีน เพื่อป้องกันโรคคอพรอก ทั้งนี้ ควรมีการขึ้นทะเบียนเกลือสมุทรให้ครบทุกราย เพื่อจะได้ทราบปริมาณการผลิตและราคาเพื่อบริหารจัดการและวางแผนการผลิตและจำหน่ายได้ถูกต้องและชัดเจน
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--