นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงจากการติดตามการดำเนินงานของสหกรณ์โคนมพัทลุง จำกัด ของ สศก. ซึ่งนับว่าเป็นสหกรณ์อีกแห่งของพื้นที่ภาคใต้ ที่มีการพัฒนาทั้งด้านการผลิตและมาตรฐานเพื่อรองรับการเข้าสู่เขตการค้าเสรีอาเซียน โดยมีการพัฒนาศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ โรงงานผลิตนมพลาสเจอร์ไรส์ และโรงงานผลิตนมยูเอชที (UHT) ตามมาตรฐาน GMP โดยขณะนี้ทางสหกรณ์ได้ดำเนินการขอการรับรองตามมาตรฐานของ Codex เพื่อรองรับการส่งออกนมไปจำหน่ายยังต่างประเทศซึ่งคาดว่าปริมาณการส่งออกจะเพิ่มมากขึ้นหากได้รับการรับรองแล้ว โดยขณะนี้มีปริมาณการส่งออกแล้วกว่า 30 ตันต่อเดือน ประเทศที่ส่งออก ได้แก่ ฟิลิปปินส์ พม่า เวียดนาม และบรูไน เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าจะได้รับการรับรองมาตรฐานประมาณช่วงเดือนพฤษภาคมนี้
นอกจากนี้ สหกรณ์ดังกล่าว ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการผลิตนมและผลิตภัณฑ์นมของภูมิภาค โดยสมาชิกของสหกรณ์ได้รับค่าน้ำนมดิบ 18.00 บาทต่อกิโลกรัม โดยสหกรณ์เป็นผู้รับภาระค่าขนส่งแทนเกษตรกร อีกทั้งสหกรณ์ยังบริการผสมเทียมแม่โคนมให้แก่สมาชิกโดยไม่คิดค่าบริการอีกด้วย ดังนั้น สหกรณ์โคนมพัทลุง จำกัด จึงเป็นอีกหนึ่งสหกรณ์ตัวอย่าง ในการพัฒนาการผลิตและการตลาดอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางการค้าที่เกิดจากการเปิดเสรีในอนาคต และเป็นแหล่งรองรับน้ำนมดิบส่วนเกินจากจังหวัดใกล้เคียงที่มีปริมาณเกินความต้องการ โดยผลผลิตของสหกรณ์ส่วนหนึ่งได้จำหน่ายเข้าสู่โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน รวมทั้งส่วนที่เหลือได้มีการแปรรูปน้ำนมดิบเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันกิจการโคนมของไทยได้มีการพัฒนาและมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง มีมาตรฐาน GMP ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่รับรองการผลิตเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วไป เช่น สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) จังหวัดราชบุรี สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด จังหวัดสระแก้ว ที่มีการตั้งโรงงานแปรรูปน้ำนมดิบเป็นนมผง รวมถึงสหกรณ์โคนมเขาสอยดาว จำกัด จังหวัดจันทบุรี ที่มีการส่งเสริมให้สมาชิกผลิตนมอินทรีย์ ซึ่งคาดว่าในอนาคตสหกรณ์โคนมอื่นๆของไทย จะมีการพัฒนามาตรฐานการผลิตให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ที่จะมาถึง
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--