นายธวัชชัย ประยูรสิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 จังหวัดราชบุรี (สศข.10) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ภาวะการผลผลิตลิ้นจี่ ในพื้นที่รับผิดชอบจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นแหล่งปลูกลิ้นจี่พันธุ์ค่อมลำเจียกที่มีคุณภาพที่สุดของประเทศ หลังได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่สำรวจข้อมูลภาคสนาม ว่าปีนี้ลิ้นจี่ล้วนไม่ติดดอกออกผล จึงส่งผลให่ไม่มีผลผลิตจำหน่าย เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน และร้อนจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี จนส่งผลกระทบต่อผลผลิต เพราะลิ้นจี่เป็นพืชที่ชอบสภาพอากาศหนาวเย็นหรืออุณหภูมิไม่เกิน 18 องศาเซลเซียสติดต่อกัน 10 วันขึ้นไป จึงจะติดดอก
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจ พบว่าจังหวัดสมุทรสงคราม มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 7,500 ไร่ ซึ่งปีนี้ล้วนไม่ติดผล จากสภาพอากากาศที่ร้อนจัดจนกระทบต่อการขาดผลผลิต ส่งผลให้ชาวสวนหลายรายโค่นต้นลิ้นจี่ทิ้ง และเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน เช่น ส้มโอขาวใหญ่ หรือมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งให้ผลผลิตดีกว่า และมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น ในปีนี้ ทางจังหวัดสมุทรสงครามจึงได้งดจัดงานเทศกาลชิมและเที่ยวสวนลิ้นจี่ประจำปี ซึ่งปกติจะจัดทุกช่วงเดือน มีนาคม ถึง เมษายน ของทุกปี โดยได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนฝากเตือนนักท่องเที่ยว เนื่องจากปีนี้ไม่มีผลผลิตลิ้นจี่แม่กลองออกจำหน่ายตามตลาดและริมถนนทางหลวง และขอให้ระวังมีผู้แอบอ้างเอาลิ้นจี่จากที่อื่นมาติดป้ายขายเป็นลิ้นจี่พันธุ์ค่อมลำเจียกของทางจังหวัด เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ถูกพ่อค้าแม่ค้าที่นำลิ้นจี่จากจังหวัดอื่นเข้ามาจำหน่ายตามตลาดและริมถนนทางหลวง
ทั้งนี้ ถ้าเป็นลิ้นจี่แม่กลอง ต้องมีคุณสมบัติคือ หนามจะตั้งและแหลมกว่าลิ้นจี่ภาคเหนือ ระยะห่างหนามจะเสมอกันทั้งผล ไม่เป็นกระจุกๆ ลักษณะผลจะโย้นิดๆ ผิวผลตึงและกรอบ มีเนื้อหนาและกรอบ สีขาวอมชมพูเรื่อๆ เนื้อแห้ง มีกลิ่นหอม รสหวานติดฝาดนิดๆ และผิวเปลือกด้านในสีจะออกชมพู หากผิดจากนี้ถือว่าไม่ใช่ลิ้นจี่แม่กลอง นายธวัชชัย กล่าวทิ้งท้าย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--