การผลิต
กรมประมงเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในฤดูฝน
ในช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมาประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน เกษตรกรผู้เลี้ยงปลามักจะประสบปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยง ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ดร. วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง กล่าวแนะนำว่า ช่วงฤดูฝนสภาพอากาศจะมืดครึ้มและอบอ้าว ทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไป มีฝนตก ทำให้ความเป็นกรด — ด่าง และน้ำขุ่นอย่างรวดเร็วหลังฝนตก ส่งผลให้ปลาหรือพันธุ์ปลาที่ปล่อยลงเลี้ยงใหม่ประสบปัญหาปลาช็อคน้ำ ป่วย และตายเป็นประจำ ทำให้ปลามีการติดเชื้อ ซึ่งได้ตรวจพบเจอเสมอ เช่น แบคทีเรีย ปรสิตภายนอก และในบางพื้นที่ได้มีการตรวจพบเชื้อไวรัสและเชื้อรา ดั้งนั้น เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ขอแนะนำให้เกษตรกรเตรียมการป้องกัน ดังนี้ เมื่ออากาศมืดครึ้มนานถึง 2 — 3 วัน หรือหลังฝนหยุดตก ควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อคลุกเคล้าน้ำฝนกับน้ำในบ่อให้เข้ากัน เพื่อป้องกันการแบ่งชั้นน้ำ เมื่อฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิน้ำเปลี่ยนแปลง ปลาอาจจะกินอาหารน้อย จึงควรลดปริมาณอาหารให้น้อยลง หรืองดอาหารในวันที่ฝนตกหนัก ควรโรยปูนขาวรอบคันบ่อ ประมาณ 30 — 50 กิโลกรัม ต่อบ่อขนาด 1 ไร่ เมื่อฝนตกจะช่วยปรับ ph น้ำได้ดีขึ้น สาดเกลือแกงลงในบ่อภายหลังที่ฝนตกประมาณ 60 —100 กิโลกรัมต่อไร่ จะช่วยลดพิษของแอมโมเนียและช่วยรักษาความสมดุลในร่างกายปลา หากจำเป็นต้องเลี้ยงสัตว์น้ำ ควรปล่อยในอัตราที่ไม่หนาแน่น เมื่อปลาแสดงอาการผิดปกติ อาจผสมยาในอาหารให้ปลากิน และควรปฏิบัติตามฉลากยาอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม กรมประมงขอให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของอากาศ และดูแลปลาที่เลี้ยงไว้อย่างใกล้ชิด หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยหรือสำนักงานประมงจังหวัดที่ใกล้บ้านท่าน
เปลี่ยนถ่ายกระชังลูกใหม่หรือเพิ่มออกซิเจนในน้ำนช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่น้ำตาย โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนบวกกับออกซิเจนในน้ำค่อนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา(29 เม.ย.—5 พ.ค. 2556) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 343.54 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 171.59 ตัน สัตว์น้ำจืด 171.95 ตัน ประกอบด้วย สัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 2.32 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 2.08 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 48.49 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 0.00 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 6.69 ตัน
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.97 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 42.37 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.40 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 50.00 บาท
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 93.40 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 92.67 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.73 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 126.67 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 130.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 3.33 บาท
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 214.78 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 213.26 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.52 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 209.17 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 208.33 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.83 บาท
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 34.52 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 31.19 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 3.33 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 79.17 บาท ลดลงจาก กิโลกรัมละ 80.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.83 บาท
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 101.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 100.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 140.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 160.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 20.00 บาท
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7.03 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 7.45 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.42 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 6 — 12 กรกฎาคม 2556) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 20.32 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 8 - 14 กรกฎาคม 2556--