ไทยพร้อมเป็นประเทศนำ ส่งเสริมสินค้ามันฯ ภายใต้เอ็มโอยูส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้อาเซียน

ข่าวทั่วไป Friday July 26, 2013 13:58 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สศก.ร่วมผลักดันความร่วมมือในการขยายโอกาสทางการค้าของสินค้าเกษตรและป่าไม้ของอาเซียน จำนวน 11 รายการ เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็น AEC ร่วมกันในที่ประชุม JCM ครั้งที่ 20 ณ ประเทศฟิลิปปินส์ เผย ไทยพร้อมเป็นประเทศนำในการส่งเสริมสินค้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ภายใต้ MOU การส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้อาเซียน

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10-11 กรกรกฎาคมที่ผ่านมา สศก. ได้ร่วมการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยการส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้อาเซียน หรือ The Joint Committee Meeting (JCM) on ASEAN Cooperation in Agriculture and Forest Products Promotion Scheme ครั้งที่ 20 ณ เมือง Puerto Princesa เกาะ Palawan ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะทำงานส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้ 11 รายการ และเร่งรัดให้ประเทศสมาชิกดำเนินการตามแผนงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ของอาเซียน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเป็น AEC ได้ทันกำหนดในปี 2558

สำหรับการร่วมประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งนี้ มีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น 7 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักเลขาธิการอาเซียน (ASEC) ทำหน้าที่เป็นเลขานุการของการประชุม และมีผู้แทนจากประเทศฟิลิปปินส์เป็นประธานโดยผู้แทนของประเทศสมาชิกอาเซียนได้มีการรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานเพื่อผลักดันความร่วมมือในการขยายโอกาสทางการค้าของสินค้าเกษตรและป่าไม้ของอาเซียน จำนวน 11 รายการ ได้แก่ สาหร่าย โกโก้ มะพร้าว กาแฟ ผลิตภัณฑ์ป่าไม้ น้ำมันปาล์ม ถั่วต่างๆ พริกไทย ชามันสำปะหลัง และทูน่า ที่ดำเนินงานโดยคณะทำงาน (National Focal Point Working Group: NFPWG) รายสินค้า ตามที่กำหนดไว้ในเอกสารบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้อาเซียน ทั้งนี้ ประเทศไทยรับหน้าที่เป็นประเทศนำ (Lead Country) ในการส่งเสริมสินค้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ภายใต้ MOU ดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการดำเนินงานเป็นรายสินค้า เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนการส่งเสริมสินค้าของอาเซียนทั้งในด้านวิชาการ เช่น การเสนอโครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาคุณภาพเมล็ดกาแฟ และโครงการถ่ายทอดการจัดการศัตรูพืชด้วยวิธีผสมผสาน (IPM) ในการปลูกชา รวมถึงข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการของคณะทำงานฯ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งผลจากการประชุมดังกล่าว ประเทศเจ้าภาพจะนำไปเสนอในการประชุมสมัยพิเศษของเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเกษตรและป่าไม้ของอาเซียน (Special SOM AMAF) ครั้งที่ 34 ที่มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ ณ แขวงจำปาศักด์ สปป. ลาว ต่อไป

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ