นายอนันต์ ลิลา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการความมั่นคงอาหารโลก ครั้งที่ 40 (The 40th Session of Committee on World Food Security: CFS) ณ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization: FAO) กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี เมื่อวันที่ 7-11 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่ง สศก. โดยรองเลขาธิการ (นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ) และคณะ ได้เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม ซึ่งนับเป็นการประชุมประจำปีเพื่อร่วมกันกำหนดนโยบายและแนวทางที่จะผลักดันให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารในระดับโลก โดยมีประเทศสมาชิก 121 ประเทศ และประเทศที่มิใช่สมาชิก 14 ประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง องค์กรภาคเอกชน และองค์กรภาคประชาชนเข้าร่วม ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าว ได้แสดงถึงความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อการกำหนดทิศทางการพัฒนาด้านความมั่นคงอาหารในระดับโลก โดยเฉพาะการคำนึงถึงการส่งเสริมความมั่นคงอาหารที่สมดุลกับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ และการส่งเสริมการเข้าถึงทรัพยากรการผลิตในด้านต่างๆ แก่เกษตรกรรายย่อย รวมทั้งความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการตั้งเป้าหมายการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015 ด้านความมั่นคงอาหาร ซึ่งองค์การสหประชาชาติดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
ด้านนายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการการและโฆษก สศก. ได้กล่าวถึงรายละเอียดในการประชุมครั้งนี้ว่า ที่ประชุมได้รับทราบจำนวนผู้ขาดสารอาหารจากรายงานสถานะความไม่มั่นคงอาหารโลกปี ค.ศ. 2013 (ข้อมูลปี 2011-2013) ที่ระบุว่าจำนวนผู้ขาดสารอาหารได้ลดลงเป็น 842 ล้านคน จาก 868 ล้านคน ในปี ค.ศ. 2012 (ข้อมูลปี 2010-2012) ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ขาดสารอาหารลดลงจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 6 ของประชากรทั้งประเทศ หรือประมาณ 4 ล้านคน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงอาหาร 2 เรื่อง คือ 1. เรื่องเชื้อเพลิงชีวภาพและความมั่นคงอาหาร ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เสนอแนะแนวทางการดำเนินงานในการส่งเสริมนโยบายที่เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคงอาหารและเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยให้ความสำคัญกับการผลิตอาหารเป็นลำดับแรก การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างกันในการเสริมสร้างความมั่นคงอาหาร และ 2.เรื่องการลงทุนให้แก่เกษตรกรรายย่อยเพื่อความมั่นคงอาหารและโภชนาการ โดยคณะกรรมการฯ เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสนับสนุนนโยบายระดับชาติในเรื่องการทำการเกษตรรายย่อย การส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติที่นำมาผลิตอาหารและการทำการเกษตรทั้งในเรื่องการบริการทางสังคม การตลาด การส่งเสริมการเกษตร และเทคโนโลยี รวมถึงการส่งเสริมลงทุนสำหรับเกษตรกรรายย่อย เพื่อลดความยากจนและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาคัดเลือกประธานคณะกรรมการฯ คนใหม่ คือ นางสาวเกอร์ด้า เวอร์เบร์ก เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรเนเธอร์แลนด์ประจำ FAO และคณะกรรมการฯ ชุดใหม่แทนคณะที่ครบวาระอีกด้วย รองเลขาธิการ กล่าวในที่สุด
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--