นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากที่คณะกรรมการบริหารกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ได้เห็นชอบอนุมัติงบประมาณสนับสนุนรวม 47.166 ล้านบาท ให้แก่สหกรณ์การเกษตร 3 แห่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมสหกรณ์ คือ สหกรณ์การเกษตรเมืองพิจิตร จำกัด สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด และสหกรณ์นิคมสวรรคโลก เพื่อเป็นการสนับสนุนเงินยืมปลอดดอกเบี้ยให้แก่สมาชิกในโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีของสหกรณ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันข้าวไทยสู่สากล โดยมุ่งหวังให้มีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีได้มาตรฐาน ลดการใช้สารเคมี ให้หันมาใช้สารอินทรีย์ชีวภาพแทน และปลูกพืชตระกูลถั่วหรือปุ๋ยพืชสดสลับกับการทำนาเพื่อฟื้นฟูสภาพดิน
ในการนี้ สศก. ได้ติดตามการดำเนินงานโครงการฯ ซึ่งพบว่า สามารถทำให้สมาชิกเพิ่มผลผลิตข้าวเปลือกเมล็ดพันธุ์ในฤดูการผลิตปี 2555/56 ได้เพิ่มขึ้น จากเดิม 769 กิโลกรัม/ไร่ เป็น 800 กิโลกรัม/ไร่ หรือประมาณ ร้อยละ 4 โดยมีการใช้ปัจจัยการผลิต เช่น เมล็ดพันธุ์ และปุ๋ยเคมีลดลง อย่างไรก็ตาม พบว่า ยังมีค่าใช้จ่ายด้านแรงงานเพิ่มขึ้น เช่น ค่าเตรียมพื้นที่ปลูก ค่าแรงปลูก/กำจัดวัชพืช/เก็บเกี่ยว รวมทั้งค่าสารเคมีต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังพบว่า สมาชิกสามารถขายข้าวเปลือกเมล็ดพันธุ์ได้ในราคาที่สูงกว่าก่อนมีโครงการ จากตันละ 13,089 บาท เป็นตันละ 14,176 บาท หรือสูงกว่า 1,087 บาท/ตัน ส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนสุทธิเพิ่มขึ้นตันละ 2,007 บาท คือจากเดิมตันละ 4,855 บาท เป็นตันละ 6,862 บาท
ทั้งนี้ โครงการฯ ได้ส่งเสริมให้สมาชิกลดการทำนาเหลือปีละ 2 ครั้ง และปลูกพืชตระกูลถั่ว/ปุ๋ยพืชสดสลับกับการทำนาเพื่อปรับปรุงดินให้ดียิ่งขึ้น โดยเกษตรกรบางรายมีรายได้เสริมจากการปลูกถั่วถึง 3,672 บาท/ไร่ หรือประมาณ 43,763 บาท/ฤดู และคาดว่าในปีหน้า หากสหกรณ์ส่งเสริมให้สมาชิกลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีลงและหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์/ชีวภาพให้มากขึ้นแล้ว จะสามารถลดต้นทุนลงและได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นไปด้วย รองเลขาธิการ กล่าวในที่สุด
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--