ไทยเล็งเข้าร่วมโครงการจัดตั้งพันธมิตร เกษตรกรรมเท่าทันภูมิอากาศ

นายคนิต ลิขิตวิทยาวุฒิ รองเลขาธิการและรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สศก. ได้ร่วมประชุม First Consultation Meeting Development Climate Smart Agriculture ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 6-11 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อจัดทำข้อเสนอโครงการจัดตั้งพันธมิตรเกษตรกรรมเท่าทันภูมิอากาศ (The Alliance on Climate Smart Agriculture: ACSA) สำหรับเสนอต่อที่ประชุม The Third Global Conference on Agriculture, Food Security and Climate Change ที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลประเทศเนเธอร์แลนด์ร่วมกับแอฟริกาใต้ซึ่งจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 ณ ประเทศแอฟริกาใต้

สำหรับการประชุมดังกล่าว นับว่าเป็นกลไกสำคัญอย่างหนึ่ง ในการนำเอาประเด็นท้าทายภาคเกษตรมาบูรณาการกัน เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กระทบต่อภาคเกษตรและความมั่นคงทางอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในส่วนของกรอบแนวคิดของร่างข้อเสนอโครงการ ACSA ได้เปิดให้ทุกภาคส่วนเข้าร่วมตามความสมัครใจ มีองค์ประกอบใน 3 มิติหรือ 3 เสาหลักคือ การเพิ่มผลิตภาพภาคเกษตรกรรมและรายได้อย่างยั่งยืน การปรับตัวเพื่อรับมือและสร้างความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งการปฏิบัติการ CSA ตลอดทั่วทั้งระบบเกษตรกรรมและพื้นที่ เน้นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดผลปฏิบัติที่ชัดเจน เช่น การเพิ่มพูนและส่งเสริมความรู้ รวมถึงงานวิจัยและพัฒนา

          รองเลขาธิการ กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องดังกล่าว สศก. ได้จัดประชุมคณะทำงานวิชาการและกำหนดท่าทีการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้านการเกษตร ครั้งที่ 2/2556  เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการพิจารณาความเห็นในร่างคำกล่าวข้อเสนอโครงการฯ และพิจารณาท่าทีการเข้าร่วมพันธมิตรโครงการ ACSA และนำข้อหารือร่วมกันจัดทำเป็นท่าทีของไทยสำหรับเสนอต่อที่ประชุม The Third Global Conference on Agriculture, Food Security and Climate Change  ณ ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งในกระบวนการพิจารณาตอบรับเข้าร่วมโครงการ ACSA  จะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน ซึ่งจะเชิญหน่วยงานต่างๆ            ทั้งภาคเอกชน องค์กร NGOs เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรร่วมกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม การให้ความสำคัญกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความมั่นคงอาหารนับเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายในการจัดทำยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมีแนวทางการดำเนินงานด้านมั่นคงอาหารของไทย โดยได้มีการจัดทำกรอบยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านอาหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี 2556-2559 ดังนั้น การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรโครงการ ACSA จึงถือเป็นโอกาสอันดี ที่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานด้านความมั่นคงอาหารและด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของประเทศ พร้อมส่งเสริมการปฏิบัติการตามสามเสาหลักอย่างผสมผสานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--