ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร: ข้าว

1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ

1.1 การตลาด

โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56

1) มติ ครม. วันที่ 2 กรกฎาคม 2556 รับทราบราคา ปริมาณ วงเงินการรับจำนำข้าวเปลือกของเกษตรกร และระยะเวลาการรับจำนำโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56

2) ชนิดและราคารับจำนำข้าวเปลือก ปี 2555/56 (ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน เป็นต้นไป) ให้กำหนดชนิดและราคารับจำนำข้าวเปลือก ปี 2555/56 ณ ความชื้นไม่เกิน 15 % ดังนี้

(1) ข้าวเปลือกปทุมธานี (42 กรัม) ตันละ 16,000 บาท

(2) ข้าวเปลือกเจ้า :-

ข้าวเปลือกเจ้า 100% ตันละ 15,000 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 5% ตันละ 14,800 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 10% ตันละ 14,600 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 15% ตันละ 14,200 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 25% ตันละ 13,800 บาท

(3) ข้าวเปลือกเหนียว :-

ข้าวเปลือกเหนียว 10% เมล็ดยาว (42 กรัม) ตันละ 16,000 บาท

ข้าวเปลือกเหนียว 10% เมล็ดสั้น (40 กรัม) ตันละ 15,000 บาท

3) เป้าหมายการรับจำนำ จะรับจำนำข้าวเปลือกจากเกษตรกรในปริมาณที่ไม่เกินที่ระบุไว้ในใบรับรองเกษตรกร ที่กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกให้ และจำกัดวงเงินรับจำนำรายละ

ไม่เกิน 500,000 บาทต่อรอบ ตามที่ กขช. มีมติเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556

4) ระยะเวลา

(1) ระยะเวลารับจำนำ 1 กุมภาพันธ์ ? 15 กันยายน 2556 ยกเว้น ภาคใต้จะสิ้นสุดวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556

(2) ระยะเวลาไถ่ถอน 4 เดือน นับถัดจากเดือนที่รับจำนำ

(3) ระยะเวลาโครงการ 1 ตุลาคม 2555 ? 31 มกราคม 2557

5) ผลการดำเนินงาน

จำนวนเกษตรกรที่รับเงินกับ ธ.ก.ส.(ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2555 ? 18 พฤศจิกายน 2556)

• จำนวนสัญญา 2,908,024 สัญญา
• จำนวนตัน 22,449,759 ตัน
• จำนวนเงิน 351,463.121 ล้านบาท

หมายเหตุ : มติ ครม. วันที่ 29 ตุลาคม 2556 ให้ช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ไม่สามารถใช้สิทธิ์

ครั้งที่ 2 นำข้าวมาเข้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ได้ทันภายในวันที่ 15 กันยายน 2556 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดโครงการ เป็นกรณีพิเศษ หลักเกณฑ์ วิธีการขอรับเงินและการจ่ายเงินเยียวยา มีดังนี้

(1) เป็นเกษตรกรที่มีหนังสือรับรองเกษตรกรโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2555/56 ครั้งที่ 2 ระบุวันเก็บเกี่ยวไม่เกิน 15 กันยายน 2556 แต่ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ทันภายในระยะเวลารับจำนำที่กำหนด

(2) เป็นเกษตรกรที่ได้มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2555/56 ครั้งที่ 2 ที่ระบุวันเก็บเกี่ยว 16 ? 30 กันยายน 2556 ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องตรวจสอบและออกหนังสือรับรองเกษตรกรให้แก่เกษตรกรเพื่อใช้ในการเยียวยาครั้งนี้ต่อไป โดย ธ.ก.ส.เป็นผู้ตรวจสอบสิทธิ์ในการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2555/56 ครั้งที่ 2 กรณียังไม่ได้ใช้สิทธิ์ให้ ธ.ก.ส.จ่ายเงินเข้าบัญชีให้เกษตรกรโดยตรง ซึ่งรัฐบาลจะชดเชยเงินให้ตันละ 2,500 บาท จำกัดครัวเรือนละไม่เกิน 33 ตัน

1) มติ ครม. วันที่ 3 กันยายน 2556 รับทราบราคา ปริมาณ วงเงินการรับจำนำข้าวเปลือกของเกษตรกร และระยะเวลาการรับจำนำโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57

2) ชนิดและราคารับจำนำข้าวเปลือก ปี 2556/57 ให้กำหนดชนิดและราคารับจำนำข้าวเปลือกปี 2556/57 ณ ความชื้นไม่เกิน 15 % ดังนี้

• ครั้งที่ 1

(1) ข้าวเปลือกหอมมะลิ (42 กรัม) ตันละ 20,000 บาท

(2) ข้าวเปลือกหอมจังหวัด (40 กรัม) ตันละ 18,000 บาท

(ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 23 จังหวัด)

(3) ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 (42 กรัม) ตันละ 16,000 บาท

(4) ข้าวเปลือกเจ้า :-

ข้าวเปลือกเจ้า 100% ตันละ 15,000 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 5% ตันละ 14,800 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 10% ตันละ 14,600 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 15% ตันละ 14,200 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 25% ตันละ 13,800 บาท

(5) ข้าวเปลือกเหนียว :-

ข้าวเปลือกเหนียว 10% เมล็ดยาว (42 กรัม) ตันละ 16,000 บาท

ข้าวเปลือกเหนียว 10% เมล็ดสั้น (40 กรัม) ตันละ 15,000 บาท

ทั้งนี้ ราคารับจำนำข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกปทุมธานี 1 ให้ปรับเพิ่ม ? ลดตามจำนวนกรัมในอัตรากรัมละ 200 บาท และราคารับจำนำข้าวเปลือกเหนียว ให้ปรับเพิ่ม ? ลดตามจำนวนกรัม โดยเมล็ดยาว ในอัตรากรัมละ 160 บาท และเมล็ดสั้นในอัตรากรัมละ 150 บาท

หมายเหตุ : มติ กขช. วันที่ 13 กันยายน 2556 เห็นชอบให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2556/57 ในช่วงเดือนพฤษภาคม ? มิถุนายน 2556 และจะเก็บเกี่ยวข้าวก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ที่ต้องการจะเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2556/57 โดยให้เกษตรกรฝากข้าวไว้ที่โรงสีก่อน โดยถือว่าได้ใช้สิทธิ์

ในการจำนำข้าวในปีการผลิต 2556/57 ไปแล้วจำนวน 1 ครั้ง และจะขอเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 นาปี (ครั้งที่ 1) อีกไม่ได้

• ครั้งที่ 2

(1) ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 (42 กรัม) ตันละ 16,000 บาท

(2) ข้าวเปลือกเจ้า :-

ข้าวเปลือกเจ้า 100% ตันละ 13,000 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 5% ตันละ 12,800 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 10% ตันละ 12,600 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 15% ตันละ 12,200 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า 25% ตันละ 11,800 บาท

(3) ข้าวเปลือกเหนียว :-

ข้าวเปลือกเหนียว 10% เมล็ดยาว (42 กรัม) ตันละ 16,000 บาท

ข้าวเปลือกเหนียว 10% เมล็ดสั้น (40 กรัม) ตันละ 15,000 บาท

ทั้งนี้ ราคารับจำนำข้าวเปลือกปทุมธานี 1 ให้ปรับเพิ่ม ? ลดตามจำนวนกรัมในอัตรากรัมละ 200 บาท และราคารับจำนำข้าวเปลือกเหนียว ให้ปรับเพิ่ม ? ลดตามจำนวนกรัม โดยเมล็ดยาว ในอัตรากรัมละ 160 บาท และเมล็ดสั้นในอัตรากรัมละ 150 บาท

3) เป้าหมายการรับจำนำ จะรับจำนำข้าวเปลือกคุณภาพดี โดยจะไม่รับจำนำข้าวเปลือกที่มีอายุน้อยกว่า 110 วัน ที่มีคุณภาพต่ำ จำนวน 18 พันธุ์ ตามที่กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศ โดยจะไม่ให้เข้าร่วมโครงการฯ ทั้ง 2 ครั้ง

4) วงเงินการรับจำนำ

• ครั้งที่ 1 ไม่เกินรายละ 350,000 บาท
• ครั้งที่ 2 ไม่เกินรายละ 300,000 บาท

5) เป้าหมายการรับจำนำ รวมจำนวน 16.5 ล้านตัน

6) ระยะเวลารับจำนำ

• ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ? 28 กุมภาพันธ์ 2557 ยกเว้น ภาคใต้จะสิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2557
• ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ? 30 กันยายน 2557 ยกเว้น ภาคใต้ระว่างวันที่ 1 สิงหาคม ? 30 พฤศจิกายน 2557

7) ผลการดำเนินงาน ครั้งที่ 1

จำนวนเกษตรกรที่รับเงินกับ ธ.ก.ส. (ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม ? 26 พฤศจิกายน 2556)

• จำนวนสัญญา 44,183 สัญญา
• จำนวนตัน 381,103 ตัน
• จำนวนเงิน 5,834,273.261 ล้านบาท

ทั้งข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิและข้าวเปลือกเจ้าราคาค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากและความต้องการของตลาดชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการสั่งซื้อข้าวปริมาณลดลง

1.2 ราคา

1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ

ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 14,736 บาท ราคาลดลงจากตันละ 14,762 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 0.71

ราคาข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 8,120 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน

2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ

ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 12,450 บาท ราคาลดลงจากตันละ 12,730 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 2.19

3) ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี.

ราคาข้าวหอมมะลิไทย ชั้น 1 (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 1,048 ดอลลาร์สหรัฐฯ (33,289 บาท/ตัน)

ราคาข้าวปทุมธานี ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 728 ดอลลาร์สหรัฐฯ (23,125 บาท/ตัน)

ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 442 ดอลลาร์สหรัฐฯ (14,040 บาท/ตัน)

ราคาข้าวสารเจ้า 25% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 404 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,833 บาท/ตัน)

ราคาข้าวนึ่ง 5% ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 471 ดอลลาร์สหรัฐฯ (14,961 บาท/ตัน)

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 31.7645 บาท

2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ

สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ

ฟิลิปปินส์

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เวียดนามมีแนวโน้มที่จะชนะการประกวดราคาข้าว จำนวน 500,000 ตัน ในการจัดหาข้าวของรัฐบาลฟิลิปปินส์ เพื่อแก้ปัญหาความต้องการข้าวภายในประเทศ ภายหลังที่สต๊อกข้าวขององค์การอาหารแห่งชาติ (National Food Authority: NFA) ลดลงเนื่องจากเกิดพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน

ผู้แทนขององค์การอาหารแห่งชาติเปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า เวียดนามมีแนวโน้มที่จะชนะการประกวดราคาในครั้งนี้ เนื่องจากเสนอราคาต่ำ โดยไทยเสนอราคาข้าวขาว 25% ตันละ 475 ดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 15,088 บาท) ในขณะที่เวียดนามเสนอราคาข้าวคุณภาพใกล้เคียงกัน ตันละ 462.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 14,683 บาท) และมีท่าทีที่จะปรับลดราคาลงอีกในการเจรจา ซึ่งเวียดนามคาดว่า จะสามารถจัดส่งข้าวได้ก่อนวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ทั้งนี้กัมพูชาไม่ได้เข้าร่วมประกวดราคาในครั้งนี้

องค์การอาหารแห่งชาติประมาณการว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องการข้าวจำนวน 200,000 ตัน เพื่อเยียวยาผู้ประสบภัยพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในอีก 100 วันข้างหน้า ส่วนข้าวอีกจำนวน 300,000 ตัน จะถูกใช้เป็นมูลภัณฑ์กันชน (buffer stocks) ภายใต้องค์การอาหารแห่งชาติ

ที่มา Oryza.com

อินเดีย

พายุไซโคลนเฮเลน ซึ่งเคลื่อนตัวผ่านประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 22-23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้สร้าง ความเสียหายให้แก่ข้าวที่พร้อมจะเก็บเกี่ยว พื้นที่ประมาณ 460,000 เฮคตาร์ (หรือประมาณ 2.875 ล้านไร่) ใน รัฐอานธรประเทศ (Andhra Pradesh) ทางตอนใต้ของอินเดีย โดยเป็นการทำลายความหวังของอินเดียที่จะผลิตข้าวให้ได้มากกว่า 100 ล้านตันในปี 2556/57 และอาจส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศปรับสูงขึ้นได้ รัฐอานธรประเทศมีพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดียและเป็นพื้นที่ปลูกข้าวที่สำคัญของประเทศ มีผลผลิตคิดเป็นร้อยละ 10 ของผลผลิตรวมทั้งประเทศ

โดยก่อนหน้านี้ อินเดียประสบภัยพิบัติจากพายุไซโคลนไพลิน ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาปรับลดตัวเลขประมาณการผลผลิตในปี 2556/57 จาก 104 ล้านตัน เหลือ 100 ล้านตัน หรือเป็นการปรับลดร้อยละ 4 อย่างไรก็ตาม คาดว่าความเสียหายจากพายุไซโคลนเฮเลนในครั้งนี้จะสูงกว่าความเสียหายจากพายุไซโคลนไพลินในครั้งก่อน เนื่องจากพายุไซโคลนเฮเลนได้พัดผ่านในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวพอดี สื่อท้องถิ่นรายงานว่า อิทธิพลของพายุทำให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวของเกษตรกรได้รับความเสียหาย และยากต่อการฟื้นฟู โดยความเสียหายดังกล่าวอาจทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในวันที่ 28 พฤศจิกายน พายุไซโคลนเลฮาร์กำลังจะพัดผ่านพื้นที่รัฐอานธรประเทศ และรัฐโอริสสา (Odisha) ซึ่งเป็นพื้นที่ผลิตข้าวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของอินเดีย และได้รับผลกระทบแล้วจากพายุไพลินเมื่อเดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ราคาข้าวในประเทศของอินเดียจะปรับลดลง เนื่องจากอุปทานจะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ประกอบการในรัฐอานธรประเทศให้ความเห็นว่า ราคาข้าวอาจจะปรับลดลงได้ยาก เนื่องจากอุปทานในประเทศลดลง

ที่มา Oryza.com

กัมพูชา

ข้าวหอมมะลิของกัมพูชาและข้าว California Calrose (ข้าว Japonica) ได้รับเลือกให้เป็นข้าวที่มีรสชาติดีที่สุดในโลกร่วมกัน จากการแข่งขันซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในการประชุมข้าวโลก (Rice Traders World Rice Conference) เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

สมาพันธ์ผู้ส่งออกข้าวกัมพูชา (Federation of Cambodian Rice Exporters: FCRE) เปิดเผยว่า ข้าวหอมมะลิกัมพูชาได้รับเลือกให้เป็นข้าวที่มีรสชาติดีที่สุดในโลก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และกล่าวเพิ่มเติมว่า รสนิยมใน การบริโภคข้าวมีแนวโน้มเปลี่ยนไป โดย ในอดีตที่ผ่านมา ข้าวเป็นเพียงสินค้าและอาหารทั่วไป แต่ปัจจุบันรสชาติของข้าวเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น

กัมพูชาอยู่ระหว่างประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ 2 ประเทศ ได้แก่ ไทยและเวียดนาม ผู้ส่งออกข้าวของกัมพูชากล่าวว่า ข้าวของกัมพูชาเป็นที่รู้จักน้อย เมื่อเทียบกับไทยและเวียดนาม แต่มีรสชาติดีกว่าข้าวจากทั้ง 2 ประเทศ

ผู้แทนจากอุตสาหกรรมข้าวสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ข้าว California Calrose เกือบชนะการประกวดในหลายๆปีที่ผ่านมา และการชนะการประกวดในครั้งนี้เป็นผลจากการพัฒนาพันธุ์เป็นเวลา 100 ปี โดยอุตสาหกรรมข้าวและสถานีทดลองข้าวแคลิฟอร์เนีย

ที่มา Oryza.com

--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 25 พ.ย. - 1 ธ.ค. 2556--