นายคนิต ลิขิตวิทยาวุฒิ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการจัดสัมมนายุทธศาสตร์สับปะรด ปี 2558 – 2562 ณ โรงแรมหัวหินแกรนด์ แอนด์ พลาซ่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 17 ธันวาคม 2556 ซึ่ง สศก. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะทำงานร่างยุทธศาสตร์สับปะรดปี 2558 – 2562 จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้รับทราบร่างยุทธศาสตร์สับปะรดปี 2558 – 2562 และมีส่วนร่วมในการเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ โดยมีผู้แทนเกษตรกร ผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐ เกษตรกร ผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษา และผู้แทนจากสถาบันเกษตรกร รวมทั้งนักวิชาการ เจ้าหน้าที่ของ สศก. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเข้าร่วม
ประเทศไทย นับเป็นผู้ผลิตสับปะรด อันดับ 1 ของโลก มีเกษตรกรชาวไร่สับปะรดประมาณ 40,000 ครัวเรือน สามารถผลิตสับปะรดได้มากกว่า 2 ล้านตันต่อปี มีการส่งออกสับปะรดสดและผลิตภัณฑ์นำรายได้เข้าประเทศ ปีละกว่า 20,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปลายปี 2554 เป็นต้นมา ราคาสับปะรดได้ปรับตัวลดลงจากปัจจัยหลายๆ ด้าน เช่น เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์สับปะรดที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปอยู่ในภาวะซบเซา รวมถึงการแข็งค่าของเงินบาท ส่งผลให้ปริมาณและราคาส่งออกผลิตภัณฑ์สับปะรดโน้มลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อราคาที่เกษตรกรขายได้
เพื่อให้มีการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสับปะรดทั้งระบบ รัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน และ สศก. เป็นฝ่ายเลขานุการ ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมทั้งผู้แทนเกษตรกร ได้จัดทำยุทธศาสตร์สับปะรด ปี 2553-2557 ขึ้น เพื่อใช้เป็นแผนแม่บทในการดำเนินการตามกลยุทธ์ด้านต่างๆ ให้สอดคล้องและครอบคลุมทั้งระบบ แต่เนื่องจากยุทธศาสตร์สับปะรดฉบับดังกล่าวกำลังจะสิ้นสุดในปี 2557 ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปี 2558 สศก. จึงได้ยกร่างยุทธศาสตร์สับปะรด ปี 2558-2562 ขึ้น โดยคณะทำงานยกร่างยุทธศาสตร์สับปะรด ปี 2558-2562 และจัดให้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในวันนี้ เพื่อระดมความคิดเห็นอีกครั้งหนึ่งจากทุกภาคส่วนเพื่อให้ร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อนนำเสนอคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--